ของหวานที่รสชาติละมุน นุ่มเนียน หวานอมเปรี้ยว ตัดเลี่ยนด้วยบิสกิตกรุบๆ แถมยังเป็นกระแสขณะนี้ก็ต้องเป็นชีสเค้กอย่างแน่นอน วันนี้แอดเลยมี 3 สูตรชีสเค้กสุดฮอตมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ลองไปทำกันดูนะคะ จะเป็นชีสเค้กส้ม ชีสเค้กช็อคโกแลต หรือจะบลูเบอร์รี่ชีสเค้กก็ไปเลือกสรร ทำกันทานได้เลยค่ะ สล็อต pg เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์
1.ชีสเค้กส้ม [orange cheesecake]
ถ้าใครเคยชิมแต่เค้กส้มหน้านิ่ม อยากนำเสนอตัวนี้เลยค่ะชีสเค้กส้ม ให้สัมผัสและรสชาติที่แตกต่างกัน แต่อร่อยไม่แพ้กันเลย ใครที่ชอบส้มห้ามพลาด เตรียมวอร์มเตาอบรอเลย
ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
บิสกิต 100 กรัม
น้ำมันมะกอก 1-2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมเนื้อชีสเค้ก
ครีมชีส 125 กรัม
คอตเทจชีส 150 กรัม
น้ำตาลทราย 3-4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายแดงร่อน 3 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งข้าวโพด 5 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ตธรรมชาติ 150 กรัม
ผิวส้มขูด 2 ช้อนชา
น้ำส้มคั้นสด 1-2 ช้อนโต๊ะ
วานิลลาชนิดผง ½ ช้อนชา
ส่วนผสมท็อปปิ้ง
มาร์มาเลดส้ม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำชีสเค้กส้ม
1.อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
2.ทำฐานชีสเค้กโดยบิบิสกิตพอแหลกเป็นชิ้นเล็กในอ่างผสม จึงนำไปบดต่อด้วยเครื่องบดพอละเอียด ค่อยๆใส่น้ำมันมะกอกทีละน้อย ผสมต่อพอเข้ากัน ปิดเครื่อง
3.กรุใส่ก้นพิมพ์จนทั่ว กดให้แน่นด้วยมือหรือใช้ก้นแก้วกด ห่อพิมพ์เค้กด้านนอกทั้งพิมพ์ด้วยอะลูมินั่มฟอยล์ 2 ชั้น เตรียมไว้
4.ทำไส้โดยตีครีมชีสในอ่างผสมด้วยเครื่องผสมอาหารโดยใช้หัวตีใบพัด ตีด้วยความเร็วสูงจนครีมชีสขึ้นฟูเบา ค่อยๆใส่คอตเทจซีส ตีจนขึ้นฟูและเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน จึงค่อย ๆใส่น้ำตาลทั้งสองชนิดทีละน้อยจนหมด แล้วลดความเร็วให้ต่ำสุด
5.ใส่ไข่ลงไปตีพอเข้ากัน ตามด้วยแป้งข้าวโพด โยเกิร์ต ผิวส้ม น้ำส้มคั้นและวานิลลา ผสมจนกระทั่งเนียนเข้ากันดี
6.เทส่วนผสมใส่ในพิมพ์ที่เตรียมไว้ประมาณ ¾ ของพิมพ์ วางพิมพ์เค้กลงในถาดนำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ ค่อย ๆใส่น้ำลงในถาดอบประมาณ 1/3 ของถาด อบนาน 1 ชั่วโมง ปิดไฟ หลังจากนั้นพักชีสเค้กไว้ในเตาอบนาน 1 ชั่วโมง โดยเปิดฝาเตาอบไว้เล็กน้อย (เพื่อให้ชีสเค้กอยู่ตัวมากขึ้น) นำออกจากเตาอบ พักไว้ด้านนอก
จนกระทั่งเย็นสนิท
7.แกะอะลูมินั่มฟอยล์ออก นำเข้าแซในตู้เย็นช่องธรรมดาต่ออีกอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง
8.ทำท๊อปปิ้งโดยผสมมาร์มาเลดส้มกับน้ำส้มคั้นสดเข้าด้วยกันในถ้วย เตรียมไว้
9.เมื่อจะรับประทานราดด้วยท๊อปปิ้งทั่งหน้าชีสเค้ก ตกแต่งด้วยส้มหันแว่นผ่าครึ่งและยอดสะระแหน่ ตัดเค้กเป็นชิ้นใส่จาน เสิร์ฟเย็นๆ
2.ชีสเค้กช็อกโกแลตหินอ่อน [chocolate marble cheesecake]
เอาใจสาวกช็อกโกแลตด้วยชีสเค้กตัวนี้ ความเข้มข้นของช็อกโกแลตมาผสมอย่างลงตัวกับชีส ตัดด้วยบิสกิตกรุบกรอบ แถมหน้าตาสวยงามลายหินอ่อน เรียกได้ว่าทั้งเจริญตาและเจริญอาหาร จิบคู่กับเครื่องดื่มอร่อยสุดๆ แนะนำค่ะ
ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
คุกกี้ช็อกโกแลดชิปบดละเอียด 75 กรัม
เนยสดชนิดจืดหันชิ้นเล็ก 75 กรัม
น้ำตาลทรายแดงร่อน 4 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมเนื้อชีสเค้ก
ดาร์กช็อกโกแลตสับหยาบ 150 กรัม
น้ำเปล่า 40 กรัม
ครีมชีส 500 กรัม
น้ำตาลทรายป่นร่อน 70 กรัม
วานิลลาชนิดผง 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ 2 ฟอง
วิธีทำชีสเค้กช็อกโกแลตหินอ่อน
1.อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
2.ทำฐานชีสเค้กโดยผสมคุกกี้ช็อกโกแลตชิป เนยสด และน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากันในอ่างผสม กรุใส่กันพิมพ์จนทั่ว กดให้แน่นด้วยมือหรือใช้กันแก้วกด นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 15 นาที
3.ยกออกจากเตา กดด้วยก้นแก้วเบา ๆ อีกครั้ง แล้วทาเนยละลายให้ทั่ว วางพักให้เย็น นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา เตรียมไว้
4.จากนั้นลดอุณหภูมิเตาอบลงเหลือ 160 องศาเซลเชียส
5.ละลายดาร์กช็อกโกแลตกับน้ำในอ่างผสมที่วางบนหม้อน้ำร้อน ลดไฟลงพออุ่นๆคนจนละลายเข้ากันดี ยกลงจากเตา เตรียมไว้
6.ทำไส้โดยดีครีมชีสในอ่างผสมด้วยเครื่องผสมอาหารโดยใช้หัวตีใบพัด ตีด้วยความเร็วสูงจนครีมขึ้นฟูเบา ค่อย ๆใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตามด้วยวานิลลา
7.ตีจนขึ้นฟูเข้ากันเป็นครีมและน้ำตาลละลายหมด ลดความเร็วให้ต่ำสุด จึงใส่ไข่ทีละน้อยลงไปตีจนหมด ตีพอเข้ากันดีจนครีมชีสนุ่ม ปิดเครื่อง
8.แบ่งส่วนผสมของครีมชีสที่ดีออกมา 1 ถ้วย ส่วนครีมชีสที่เหลือให้เทใส่ฐานชีสเค้ก เตรียมไว้ จากนั้นใส่ช็อกโกแลตที่ละลายไว้แล้วลงในถ้วยครีมชีสที่แบ่งไว้1 ถ้วย คนแบบวนเป็นเลข 8 ทำ 2-3 ครั้ง (เพื่อให้เกิดลวดลายขึ้นในเนื้อเค้ก)
9.เทครีมชีสที่มีส่วนผสมของช็อกโกแลตลงในฐานชีสเค้ก นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้อบนาน 45-50 นาที (สังเกตขนมจะหลุดจากขอบพิมพ์ แต่ตรงกลางยังดูนุ่มอยู่)
10.ยกออกจากเตาอบ พักไว้ให้เย็นลงอย่างช้า1 โดยการใช้ฝาครอบปิดเค้กทั้งก้อนจนกระทั่งเย็นสนิทนำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาต่ออีกอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
11.เมื่อจะรับประทานนำเค้กออกจากตู้เย็น ถอดพิมพ์เค้กออก ปาดวิปปิ้งครีมรอบ ๆ เค้ก ตกแต่งด้วยไวท์ช็อกโกแลตขูดโดยกดเบา ๆไปรอบ ๆ เพื่อให้ติดดี นำมีดตัดเค้กไปจุ่มน้ำร้อน (เพื่อให้ตัดง่าย) ตัดเค้กเป็นชิ้นตามต้องการ จัดใส่จาน เสิร์ฟเย็น ๆ
ชีสเค้กบลูเบอร์รี่ [blueberry cheesecake]
นาทีนี้ที่โด่งดังบนโลกโซเชียลที่เขาว่ากันว่าต่อคิวจองกันเป็นเดือนก็ต้องชีสเค้กตัวนี้เลยค่ะ ชีสเค้กบลูเบอร์รี่ ต่อไปไม่ต้องจองคิวซื้อใครแล้ว เพราะเรามีวิธีทำกันให้เพื่อนๆที่นี่แล้วค่ะ รับรองรสชาตินัวมาก อร่อยจนหยุดไม่อยู่แน่นอน แอดเตือนแล้วนะคะ
ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
บิสกิต 200 กรัม
มาร์การีนละลาย 4 ช้อนโต๊ะ
ผลบลูเบอร์รีกวนและผลบลูเบอร์รีสดสำหรับแต่งหน้าเค้ก
ส่วนผสมเนื้อชีสเค้ก
ครีมชีส 500 กรัม)
น้ำตาลทรายแดงร่อน 80 กรัม
วิปปิ้งครีม 70 กรัม
ผลบลูเบอร์รี่กวนกระป่อง100 กรัม
วิธีทำชีสเค้กบลูเบอร์รี่
1.ทำฐานชีสเค้กโดยบิบิสกิตพอแหลกเป็นชิ้นเล็กในอ่างผสม จึงนำไปบดต่อด้วยเครื่องบดพอละเอียด ใส่มาร์การีนละลาย บดต่อจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดเครื่อง ตักกรุใส่ลงกันพิมพ์ให้ทั่ว กดให้แน่นด้วยมือหรือใช้ก้นแก้วกด นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา เตรียมไว้
2.ทำไส้โดยตีครีมชีสในอ่างผสมด้วยเครื่องผสมอาหารโดยใช้หัวตีใบพัด ตีด้วยความเร็วสูงจนครีมขึ้นฟูและเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน จึงค่อยๆใส่น้ำตาล ตีต่อจนเข้ากันทั่ว ปิดเครื่อง นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา เตรียมไว้
3.ตีวิปปิ้งครีมในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไไฟฟ้าโดยใช้หัวตีตะกร้อ ตีด้วยความเร็วสูงจนขึ้นฟูเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ค่อยๆเทใส่ในอ่างผสมครีมชีสที่แช่เย็น ใช้พายยางคนให้เข้ากัน ใส่ผลบลูเบอร์รี่กวน คนพอทั่ว เทหรือตักส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้ทั่วและสวยงาม ปิดด้วยอะลูมินั่มฟอยล์ (เพื่อไม่ให้น้ำหยดใส่)
4.นำไปแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งนานข้ามคืน เมื่อจะรับประทาน นำชีสเค้กออกจากตู้เย็น วางพักที่อุณหภูมิห้องนาน 30 นาที จึงถอดพิมพ์ค้กออก
5.แต่งหน้าชีสเค้กด้วยผลบลูเบอรีรีกวนและผลบลูเบอร์รีสดตัดเค้กเป็นชิ้นใส่จาน เสิร์ฟเย็นๆ
จบไปแล้วนะคะกับ 3 สูตรชีสเค้ก รสชาตินัว อร่อยสุด เอาใจสายชีส ลองทำกันดูกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ใครชอบแบบไหน หรือจะทำทั้ง 3 สูตรเลยก็ไม่ว่ากัน แต่ละสูตรเด็ดๆทั้งนั้นค่ะ howto101 จะทำทานเองก็ดี ทำให้เป็นของขวัญ หรือจะทำขายก็ปัง สล็อต pg เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์