พืชผักสมุนไพรไทยเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะนำไปประกอบอาหาร นำมาสกัดเป็นยารักษาโรค แต่ทราบหรือไม่ พืชผักสมุนไพรดังกล่าวก็สามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มดื่มให้ชื่นใจได้ด้วยเช่นกัน แถมสรรพคุณยังมีมากมายกว่าที่เราคาดคิด วันนี้แอดมินจึงมี 10 สูตรน้ำสมุนไพร จากผักสวนครัว ดื่มแล้วดี ห่างไกลโรค มาฝากไปให้เพื่อนได้ลองทำกันค่ะ
1.น้ำฟ้าทะลายโจร
ฟ้าทะลายโจรตอนนี้เป็นกระแสนิยมอย่างมากในด้านการช่วยยับยั้งหรือช่วยบรรเทาอาการติดเชื้อโควิด-19 แต่นอกจากสรรพคุณดังกล่าวแล้ว ฟ้าทะลายโจรยังช่วยให้เจริญอาหาร เพิ่มและกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย ป้องกันตับจากสารพิษ อาทิเช่น สุรา และสารตกค้างจากพาราเซตามอล ทั้งนี้ยังช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ดี ใบฟ้าทะลายโจรที่จะเลือกมาทำยาหรือเครื่องดื่มสมุนไพรนั้น ควรเลือกใบที่ต้นก่อนออกดอก และควรเป็นต้นที่มีอายุประมาณ 3-5 เดือน นำไปล้างให้สะอาด ตากให้แห้งหรืออบให้แห้ง เก็บไว้ในขวดโหลแล้วปิดให้สนิท
ส่วนผสม
ฟ้าทะลายโจรตากแห้ง 1 ช้อนชา
ใบเตยสดหั่นหยาบ 20 กรัม
น้ำสะอาด 200 กรัม
วิธีทำ
1.นำฟ้าทะลายโจรตากแห้งและใบเตยสดมาต้มให้เดือด เคี่ยวจนงวดดี
2.ยกออกจากเตา รอให้พออุ่นๆ แล้วนำผ้าขาวบางมากรองเอากากออก
3.ดื่มวันละ ก่อนอาหาร
สรรพคุณ
ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ แก้ร้อนใน พิษไข้ แก้เจ็บคอ และช่วยให้เจริญอาหาร
2.น้ำกระชาย
กระชายที่เราใช้ใช้ในการดับกลิ่นคาวยังมีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม และเกลือแร่ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่ากระชายช่วยบำรุงสมรรถภาพทางเพศสำหรับเพศชายได้ผลดี การเลือกกระชายควรเลือกกระชายที่มีหัวใหญ่ ไม่มีรอยช้ำ อวบอ้วน เพราะเนื้อจะฉ่ำน้ำมาก
ส่วนผสม
กระชาย 150 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพา 100 กรัม
น้ำสะอาด 200 กรัม
วิธีทำ
1.น้ำกระชายมาล้างให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็ก
2.นำไปปั่นกับใบโหระพาและน้ำสะอาดแล้วจึงกรองเอากากออกด้วยผ้าขาวบาง
3.ใส่น้ำตาลทรายแดงและน้ำมะนาวคนให้เข้ากัน
สรรพคุณ
บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย แก้ปวดท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ กามตายด้าน
3.น้ำกะหล่ำปลี
กะหล่ำปลีมีเบต้าแคโรทีนและวิตามินซีสูงโดยเฉพาะในกะหล่ำปลีดิบ สาวๆ อาจจะชอบใจเมื่อรู้ว่ากะหล่ำปลีช่วยสร้างกลูต้าไธโอน ซึ่งมีฤทธิ์ในการล้างสารพิษ แต่ก็ยังมีข้อควรระวัง เนื่องจากการทานกะหล่ำปลีมากเกินไปจะทำให้ต่อมไทรอยด์มีปัญหาได้ วิธีเลือกซื้อกะหล่ำปลีนั้นควรจะดูที่ใบหุ้มชั้นนอกควรจะมีสีเขียวอ่อน ใบไม้เหี่ยวไม่เน่าและไม่มีรอยแมลงกัด ตัวการันตีมีน้ำหนักมากพอสมควร
ส่วนผสม
กะหล่ำปลีหั่นละเอียด 200 กรัม
น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด 200 กรัม
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1.น้ำกะหล่ำปลีที่หั่นละเอียดแล้วกับน้ำสะอาดมาปั่นเข้าด้วยกัน
2.กรองเอากากออกด้วยผ้าขาวบาง
3.เติมน้ำเชื่อม น้ำมะนาว และเกลือป่น ชิมรสตามชอบ
สรรพคุณ
บรรเทาอาการปวดท้องในผู้ป่วยโรคกระเพาะ เคลือบกระเพาะ ช่วยระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดี
4.น้ำมะระขี้นก
มะระขี้นกอุดมไปด้วยวิตามินที่เป็นประโยชน์มากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี 2 วิตามินซี และช่วยลดน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานได้ ควรจะเลือกมะระขี้นกที่มีสีเขียวเข้ม จับดูแล้วเนื้อจะแข็งและแน่น ไม่มีรอยเน่าบนผิว ไม่ควรรับประทานผลสุกเพราะจะเป็นพิษทำให้คลื่นไส้อาเจียน
ส่วนผสม
เนื้อมะระขี้นกแกะเอาเมล็ดออก 50 กรัม
ใบเตยสด 40 กรัม
น้ำสะอาด 150 กรัม
เกลือป่น 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1.นำมะระขี้นก ใบเตย และน้ำสะอาด ต้มด้วยกันจนเดือดแล้วยกลงจากเตา
2.รอจนอ้วนแล้วจึงเติมน้ำมะนาวหรืออาจจะเพิ่มน้ำตาลได้ตามใจชอบ
3.พร้อมเสิร์ฟอาจทานกับน้ำแข็ง
สรรพคุณ
ช่วยให้เจริญอาหาร ลดอาการต้อในผู้ป่วยเบาหวาน ลดน้ำตาลในเลือด แก้พิษไข้ บรรเทาอาการข้ออักเสบ
5.น้ำใบบัวบก
ใบบัวบกเตรียมไปด้วยวิตามินเอที่สูงมากกว่าผักหลายๆชนิด รับประทานใบบัวบกยังช่วยบำรุงสายตา บำรุงหัวใจ บำรุงสมอง ช่วยลดความดันโลหิต และยังมีแคลเซียมในปริมาณมากเช่นเดียวกัน ควรเลือกใช้ใบบัวบกส่วนใบจนถึงก้าน เรื่องใบที่ใหญ่ มีสีเขียวจัด นำไปตัดรากทิ้ง ตัดใบที่เน่าและช้ำออก แล้วจึงแช่น้ำด่างทับทิมล้างให้สะอาด
ส่วนผสม
ใบบัวบกทั้งต้น 400 กรัม
น้ำต้มสุกอุ่นๆ 200 กรัม
น้ำตาลทราย 100 กรัม
น้ำสะอาด 200 กรัม
วิธีทำ
1.ต้มน้ำตาลทรายข้าวกับน้ำสะอาด เคี่ยวจนน้ำตาลละลายหมด เคี่ยวต่อจนงวด ยกลงจากเตา
2.ร้านใบบัวบกให้สะอาด ตัดเอารากออก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปปั่นกับน้ำต้มสุก
3.กรองเอากากออกด้วยผ้าขาวบาง
4.เวลารับประทานให้ผสมกับน้ำเชื่อมและน้ำแข็ง
สรรพคุณ
แก้ร้อนใน แก้ช้ำใน บรรเทาอาการปวดศีรษะ
6.น้ำกะเพรา
ใบกะเพราประกอบไปด้วยสารอาหารหลายอย่าง อาทิเช่น คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร โปรตีน แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 นอกจากช่วยดับกลิ่นคาวและช่วยทำให้อาหารมีกลิ่นหอมมากขึ้น เปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์แบบนี้ คราวหน้ารับประทานผัดกะเพราอย่าเพิ่งเขี่ยใบกะเพราทิ้งข้างจานนะคะ การเลือกใบกะเพรามารับประทานควรเลือกใบที่ไม่เหี่ยวไม่เน่า แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด และถ้าจะให้มีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น ควรเลือกใช้ใบกะเพราแดง แทนใบกะเพราขาว เลือกยอดอ่อนใบเล็กจะหอมกว่าใบใหญ่
ส่วนผสม
ใบกะเพราสด 25-30 กรัม
ใบเตยสดหั่นหยาบ 20 กรัม
น้ำสะอาด 400 กรัม
น้ำตาลกรวด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็งทุบ ตามชอบ
วิธีทำ
1.นำใบกะเพราสดและใบเตยไปล้างให้สะอาด
2.ต้มน้ำสะอาดให้เดือดแล้วใส่ใบกะเพราพร้อมด้วยใบเตยสด แล้วต้มให้เดือดอีกรอบ ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที
3.ยกลงจากเตา ใช้ผ้าขาวบางกรองกากออก
4.เติมน้ำตาลกรวดแล้วคนให้น้ำตาลละลาย
5.รับประทานกับน้ำแข็งทุบ
สรรพคุณ
บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ลดไข้ แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ขับเหงื่อ ขับน้ำนมให้สตรีหลังคลอด
7.น้ำตำลึง
ตำลึงนั้นเรียกได้ว่าเป็นผักสามัญประจำบ้าน เพราะตำลึงเป็นพืชที่ขึ้นง่าย และขึ้นได้ทุกที่ แม้แต่ที่รั้วบ้านเราก็ยังเก็บตำลึงมาทานได้ง่ายๆ ใบและยอดตำลึงมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ตำลึงเป็นผักที่มีฤทธิ์เย็น จึงเหมาะที่จะให้ผู้ป่วยที่กำลังฟื้นไข้ทาน แต่ตำลึงที่มีใบใหญ่ สีเขียวจัด ไม่เหมาะจะนำมารับประทานเพราะเป็นตำลึงแก่ ควรเลือกใบที่เล็กสีอ่อน ใบไม่หงิกงอ และใบไม่เหี่ยว
ส่วนผสม
ใบตำลึงสด 25-30 กรัม
น้ำต้มสุก 200 กรัม
น้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง 20 กรัม
น้ำมะนาว 5 กรัม
เกลือป่น ¼ ช้อนชา
วิธีทำ
1.ล้างใบตำลึงให้สะอาด
2.นำใบตำลึงมาปั่นกับน้ำต้มสุกให้ละเอียดประมาณ 5-8 นาที
3.จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบางเอาเฉพาะน้ำตำลึงใสๆ ออกมา
4.นำน้ำตำลึงไปต้มต่อจนเดือดแล้วพักไว้
5.เติมเกลือ น้ำมะนาว และน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งตามใจชอบ
สรรพคุณ
แก้ไข้ ดับร้อน ล้างพิษ ดับพิษฝี แก้อาการปวดแสบปวดร้อน
8.น้ำคะน้า
คะน้ามีวิตามินซีสูงมากทั้งยังช่วยให้เนื้อเยื่อทำงานได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมในปริมาณที่สูงและดูดซึมได้ดีกว่าผักชนิดอื่น และช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ การรับประทานคะน้าควรรับประทานคะน้าดิบจะได้คุณค่าทางอาหารมากกว่าคะน้าสุก ข้อควรระวังในการรับประทานคะน้าคือถ้ารับประทานมากเกินไปจะทำให้ท้องอืด แล้วเนื่องจากคะน้าเป็นผักที่มีสารพิษตกค้างค่อนข้างสูงเพราะปลูกได้ตลอดทั้งปี และทุกท้องที่ จึงทำให้เกษตรกรจำเป็นต้องใช้สารเคมีมากในการเพาะปลูก ดังนั้นการเลือกซื้อคะน้าควรจะระมัดระวังเป็นพิเศษในเรื่องนี้ ควรเลือกใบที่เป็นรูบ้างเพราะจะปลอดภัยกว่า ไขสีขาวที่อยู่บนใบคะน้า เป็นสารตามธรรมชาติ แต่ก็เป็นตัวซึมซับสารพิษต่างๆ มาได้ดี ก่อนนำไปประกอบอาหารควรล้างคราบสีขาวออกให้หมดด้วยเกลือป่นหรือด่างทับทิมก่อน
ส่วนผสม
ใบคะน้าสด 3-4 ใบ
น้ำเชื่อม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำต้มสุก 200 กรัม
วิธีทำ
1.นำใบคะน้าสดมาปั่นกับน้ำต้มสุกจนละเอียด
2.แล้วกรองเอากากออกด้วยผ้าขาวบาง
3.เติมน้ำเชื่อม น้ำมะนาว เกลือป่นตามชอบ รับประทานกับน้ำแข็ง
สรรพคุณ
แก้กระหาย ร้อนใน บรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟัน
9.น้ำข่า
เหง้าข่าแก่หากนำมาตำให้ละเอียดแล้วนำมาผสมเหล้าขาว แล้วทาบริเวณที่เป็นโรคกลากเกลื้อน จะช่วยบรรเทาอาการได้ หัวข่าอ่อนเหมาะที่จะนำมาประกอบอาหารมากกว่าข่าแก ข่าอ่อนจะมีสีชมพูอ่อนที่ราก รากควรจะอวบอ้วน ไม่แห้งจนเกินไป
ส่วนผสม
ข่าแก่ตากแห้งหั่นเป็นแว่น 20 กรัม
น้ำสะอาด 200 กรัม
น้ำตาลกรวด 5 กรัม
วิธีทำ
1.ต้มน้ำสะอาดให้เดือดแล้วยกลงจากเตา ใส่ข่าแก่ลงไป ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
2.กรองเอากากออกด้วยผ้าขาวบาง แล้วจึงเติมน้ำตาลกรวดตามชอบ
3.เมนูนี้แนะนำให้ดื่มแบบร้อน จะดื่มได้สะดวกกว่าแบบเย็น
สรรพคุณ
ช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืด แน่นเฟ้อ แก้อาหารเป็นพิษ และแก้ลมพิษ
10.น้ำแตงกวา
แตงกว่าอาจจะมีสารอาหารไม่มากเท่ากับพืชผักสมุนไพรอย่างอื่น แต่คนไทยก็นิยมทานแตงกว่าคู่กับอาหารทุกจาน เนื่องจากแตงกวาเป็นผักที่มีน้ำมาก จึงแก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งทานแล้วยังช่วยให้รู้สึกสดชื่น ดีต่อสุขภาพผิว การเลือกแตงกวามารับประทาน ควรเลือกลูกที่มีสีเขียวเข้มเสมอกันทั้งลูกไม่เหลือง ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป และไม่มีรอยตำหนิบนลูก
ส่วนผสม
แตงกวาหรือแตงร้าน 200 กรัม
น้ำแข็งบด 200 กรัม
น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1.ร้านแตงกวาหรือแตงร้านให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆไม่ต้องปอกเปลือก
2.นำไปปั่นกับน้ำแข็งบด ตามด้วยน้ำเชื่อม และน้ำมะนาว
3.พร้อมเสิร์ฟน้ำแตงกวาเย็นๆ ชื่นใจ
สรรพคุณ
ช่วยล้างพิษ ลดอุณหภูมิในร่างกาย แก้ไข้ นอนไม่หลับ ลดกรดในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการบวมน้ำ
ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจปรุง 10 สูตรน้ำสมุนไพร จากผักสวนครัว ดื่มแล้วดี ห่างไกลโรค ดื่มเอง ต้องเน้นเรื่องของความสด ความสะอาดของวัตถุดิบที่ใช้ และควรดื่มทันทีหลังปรุงเสร็จเพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารและทางโภชนาการมากกว่าปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก่อนดื่ม และเพื่อไม่ให้กลิ่นและรสชาติ เปลี่ยนไปตามธรรมชาติของสมุนไพรนั้นๆ howto101.info สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์