เคยสงสัยไหมว่าทำไมคุณถึงรู้สึกเหนื่อยหลังรับประทานอาหารบ่อย ๆ มันดูเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยหลังจากรับประทานอาหาร และมักจะเกิดขึ้นมื้ออาหารในเวลาอาหารกลางวัน อาการแบบนี้เป็นอาหารที่ดูปรกติ เพราะความอิ่ม แต่ในทางเป็นจริงความรู้สึกหนื่อยหลังรับประทานอาหาร อาจเป็นไปได้ว่าร่างกายกำลังบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ผิดปรกติแฝงอยู่
ในบทความต่อไปนี้จะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณได้รู้ถึงสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดและทำอย่างไรเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหานี้ในอนาคตอย่างได้ผลในระยะยาว
ทำไมถึงรู้สึกเหนื่อยหลังจากรับประทานอาหาร
คุณอาจรู้สึกง่วงนอนหลังจากรับประทานอาหาร สาเหตุนี้มีปัจจัยหลายอย่าง และหากเกิดขึ้นบ่อยครั้งจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคุณอาจทำให้เกิดความกังวลได้ มาดูกันว่าเป็นเพราะสาเหตุใดต่อไปนี้ที่พบบ่อยที่สุดในการที่ทำให้คุณรู้สึกง่วงนอนหลังรับประทานอาหาร
1. อาหารมื้อใหญ่
เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะมีอาการง่วงนอนหลังอาหารกลางวัน นั่นเป็นเพราะปริมาณอาหารที่คุณกินเข้าไป จึงทำให้ร่างกายการย่อยสิ่งที่คุณกินเข้าไป โดยที่ใช้พลังงานในกระบวนการย่อยเป็นจำนวนมาก ทำให้ความเหนื่อยและง่วงนอนตามมา นั่นก็แปลว่ายิ่งทานอาหารเยอะมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเท่านั้น
2. กระบวนการย่อยอาหารตามธรรมชาติ
โดยปรกติร่างกายจะให้เวลาย่อยประมาณ 2 ชั่วโมง สำหรับอาหารแต่ละมื้อ (อาหารตามโภชนาการ) ดังนั้นในระหว่างย่อยอาหารคุณจะรู้สึกง่วงนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังอาหารกลางวัน จะสังเกตว่าคุณจะเริ่มรู้สึกง่วงนอนหลังจากกลับมาเริ่มทำงานได้ไม่นาน แต่ทั้งนี้อย่างที่บอกไปคุณภาพของอาหารที่คุณกินก็มีผลกระทบต่อปริมาณพลังงานที่คุณได้รับด้วย
3. คุณกินอาหารแปรรูปมากเกินไป
อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว และรสชาติเทียม (เช่น อาหารขยะ) ให้สารอาหารที่ไม่ดีและให้แคลอรีมากเกินไป นอกจากากเวลาที่ใช้ในการย่อยอาหาร ระดับคาร์โบไฮเดรตและไขมันในปริมาณมากยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณมีปัญหาเรื่องการผันผวน ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นและเป็นไขมันสะสมอย่างต่อเนื่อง นี่คือสิ่งที่อันตรายและจะนำไปสู่ความล้มเหลวของพลังงานเก็บพลังงานในร่างกายของคุณ
4. คุณกินอาหารที่มีโปรตีนสูงและคาร์โบไฮเดรตสูง
ในแต่ละวัน คุณควรบริโภคโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตที่เพียงพอ อย่าเชื่อว่าคุณจำเป็นต้องกินโปรตีนให้น้อยลงหรือตัดคาร์โบไฮเดรตออกจากอาหารของคุณ อันที่จริงสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีโดยการป้องกันความอยากอาหารบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน เพียงแต่คุณต้องรับมันด้วยการกินอย่างถูกวิธีและถูกเวลา
อาหารที่มีโปรตีนสูงเช่น ปลาแซลมอน ไก่ ผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วเหลือง ไข่ และเมล็ดพืช มีระดับทริปโตเฟนสูง คุณพบมันได้ในอาหารที่อุดมด้วยคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ขนมปังขาวและแครกเกอร์ แต่หากมากเกินไปจะทำให้ทริปโตเฟนที่มีความเป็นกรดอะมิโนผลิตเซโรโทนินซึ่งมีหน้าที่สร้างฮอร์โมนที่ช่วยผ่อนคลาย ทำให้ผลิตเซโรโทนินมากเกินไปในการทานปริมาณมาก ทำให้เป็นสาเหตุของการง่วงนอน อ่อนเพลียหลังการกินได้
5. การข้ามมื้ออาหาร
ในกิจวัตรการรับประทานอาหารคนเราโดยปรกติวันละ 3 มื้อคือ เช้า กลางวัน และเย็น มื้ออาหารเหล่านี้มีความสำคัญสำหรับคุณเพราะเป็นวัฎจักรเวลาที่ครบรอบสำหรับร่างกาย ดังนั้น การที่คุณข้ามมื้อใดมื้อหนึ่งไปก็อาจจะเป็นไปได้ว่าคุณจะทวีความหิวมากขึ้นในมื้อนั้น คุณรับประทานมันมากเพื่อทดแทนมื้อก่อนหน้าที่ข้ามไป ก็จะยิ่งทำให้คุณกินมากขึ้นร่างกายใช้พลังในระบบย่อยอาหารมากขึ้น จึงทำให้คุณจะรู้สึกเหนื่อยเมื่อคุณอิ่มแบบจริงจังหรือที่เรียกกันว่าจุดนั่นเอง
6. การดื่มแอลกอฮอลล์
นี่คือตัวร้ายแห่งปี เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทุกชนิดไม่มีชนิดไหนที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย มีแต่จะทำร้ายระบบภายในของร่างกาย ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงไม่ควรดื่มมัน แต่สำหรับไวน์ที่มาจากผลไม้ มีประโยชน์สำหรับคุณได้บ้างเช่นการช่วยให้เกิดการเจริญอาหาร ควรดื่มแต่พอดีให้เป็นประโยชน์อย่างดื่มให้เป็นโทษเท่านั้นเอง
วิธีหลีกเลี่ยงความเมื่อยล้า ง่วงนอนหลังกินอาหาร
1. อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ
การดื่มน้ำในปริมาณมากไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย มีแต่จะทำให้ร่างกายมีความสดชื่นได้ตลอดเวลา ส่งผลดีทุกระบบภายใน ดังนั้นน้ำจึงเป็นตัวหลักที่จะช่วยคุณสำหรับอาการเหล่านี้
2. กินอาหารให้เพียงพอและลดน้ำตาล
ให้คุณรับประทานอาหารให้เพียงพอในแต่ละมื้ออาหารของคุณ คุณสามารถกินมันให้อิ่มได้เต็มที่แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องลดปริมาณอาหารที่เน้นน้ำตาลหรือมีน้ำตาลที่มาเกินพอดี เช่น ขนมหวานที่คุณต้องกินทุกมื้อ ให้คุณลดมันลงจนหยุดมันได้ในที่สุด และที่สำคัญที่สุดคือให้กินอาหารให้ครบทุกมื้ออย่าข้ามมื้อใดมื้อหนึ่งเพราะทุกมื้อเป็นมื้อที่สำคัญ
3. ออกกำลังการและนอนให้เพียงพอ
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น การออกกำลังการเป็นสิ่งสำคัญมาก การออกกำลังกายจะมาคู่กับการกินอาหารและการนอนหลับเสมอ ดังนั้นคุณควรมีการจัดตารางการออกกำลังกายของคุณให้สมดุลกับเวลาการกิน และตารางการนอนหลับที่ค่อนข้างเคร่งครัด เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาในการใช้สารอาหารที่คุณรับประทาน รวมไปถึงการนอนที่ต้องให้ไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง
4. ดื่มคาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะ
ไม่ได้บอกว่าคุณไม่สามารถจะรับคาเฟอีนได้ เพียงแต่คุณต้องควบคุมปริมาณการรับคาเฟอีนในแต่ละวัน เพราะคาเฟอีนช่วยให้คุณกระปรี้กระเปร่าแต่เป็นเวลาสั้น ๆ ดังนั้น การเติมคาเฟอีนเพื่อเพิ่มความสดชื่นไม่ใช่ไอเดียที่ดีเท่าไหร่นัก เพราะถ้ามรับมันมากกว่าวันละ 2 ครั้งมันจะทำให้เกิดโทษทันที
แม้ว่าการรับประทานอาหารอิ่มจะทำให้รู้สึกเหนื่อยเ แต่ก็ยังมีนิสัยการใช้ชีวิตบางอย่างที่คุณสามารถปรับปรุงได้เพื่อลดสถานการณ์นี้ หากคุณรู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติหลังอาหาร คุณต้องออกกำลังกาย และเลือกเมนูอาหารที่จะกินเข้าไปแบบที่เป็นโภชนาการที่มีคุณภาพ การเคลื่อนไหวในแต่ละวัน การพักผ่อนอย่างเหมาะสม เป็นสิ่งที่จะช่วยรักษาพลังงานและพลังชีวิตให้คุณได้มาก และอย่าลืมตรวจสุขภาพเป็นประจำด้วย howto101
เครดิต : เว็บสล็อต