“ความเครียด” สภาวะทางอารมณ์ที่ไม่ดีที่เกิดจากแรงกดดันและสภาวะแวดล้อมที่เป็นพิษสร้างความรู้สึกเหมือนความอัดอั้นจนนำเข้าสู่ความรู้สึกที่เราเรียกกันว่าความเครียดนี่แหละ ปัจจัยสภาพแวดล้อมเป็นตัวการสำคัญ การไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ การไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง หรือการถูกกดดันจากสังคมรอบด้าน เมื่อความเครียดเข้าครอบงำ พลังงานชีวิตก็จะเริ่มลดถอยลง
การแก้ปัญหาด้วยตัวเองของหลาย ๆ คนเพื่อจัดการกับความเครียดมีแตกต่างกัน บางคนเลือกที่จะดื่ม บางคนเลือกที่จะพูดกับคนอื่น บางคนเลือกที่จะเก็บตัวเงียบ แต่การแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกนี้หายไปได้ และในไม่ช้าพลังงานที่มีในตัวของคุณก็จะหมดลงไปอย่างช้า ๆ
เรามีคำแนะนำดี ๆ ที่จะช่วยให้คนที่กำลังตกอยู่ในภาวะความเครียดนำไปใช้เพื่อช่วยลดระดับความเครียดลง และสามารถปรับความเครียดนี้กลับกลายไปเป็นพลังงานชีวิตเพิ่มมากขึ้นได้ คุณลองทำตามวิธีต่อไปนี้ เพื่อช่วยลดความตึงเครียดลงหรืออาจจะหายไปเลยก็ย่อมได้
ควบคุมความเครียดอย่างไรให้เป็นพลังงาน
1. ให้ร่างกายได้นอนหลับ
การนอนหลับเป็นการพักที่ดีที่สุด เพราะการนอนหลับสติการนึกคิดของคุณจะถูกปิดไปชั่วขณะ ทำให้ความหนักใจหรือความกังวลกับปัญหาที่พยายามจะเบียดเข้ามาอยู่ในความคิดของคุณจะถูกพับเก็บไปก่อน แต่ยังไงความเครียดก็จะทำให้ความรู้สึกง่วงนอนลดน้อยลงจะเข้าสูภาวะการนอนน้อย และเมื่อไหร่ที่คุณนอนไม่เพียงพอตามที่ควรจะเป็น อาการที่ตามมาก็คือความหงุดหงิด ความอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง
ให้คุณลองปรับความรู้สึกก่อนเข้านอน คุณอาจจะเลือกใช้วิธีการทำสมาธิหรือคุณต้องปิดการสื่อสารและการรับรู้ทั้งหมดก่อนนอน และเมื่อไหร่ที่คุณได้รับการนอนหลับที่เพียงพอ สมองของคุณจะเริ่มทำงานได้อย่างปรกติถึงแม้ว่าจะยังคงมีเรื่องให้คุณต้องกระทบความรู้สึก แต่การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้คุณมีสติและพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาที่เป็นความกังวลของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ให้ร่างกายได้รับการผ่อนคลาย
การผ่อนคลายทางร่างกายจะส่งผลให้กับจิตใจโดยตรง คุณจะสังเกตได้ว่าเมื่อไหร่ที่คุณถูกโยนเข้าไปสู่ภาวะความเครียดร่างกายของคุณไม่สามารถสั่งงานได้เหมือนปรกติ คุณจะดูเหมือนว่าร่างกายของคุณไร้การควบคุมที่ดี ดังนั้นให้คุณผ่อนคลายร่างกายของคุณด้วยกิจกรรมอื่น ๆ เช่น
การออกกำลังกาย เป็นการช่วยผ่อนคลายได้ดีเยี่ยม เพราะการได้ให้ร่างกายขยับและได้ขัับเหงื่อออกมา คุณจะสามารถรู้สึกได้ว่าร่างกายจะเบาลงจากภาวะความกังวลได้ชั่วขณะ
การใช้ธรรมชาติบำบัด การเดินเข้าหาธรรมชาติเป็นวิธีการสะกดอารมณ์ได้ดีอีกวิธีหนึ่ง ธรรมชาติมีอากาศที่บริสุทธิส่งผลให้ร่างกายได้รับความรู้สึกสดชื่น และเป็นการสูดอากาศเพื่อให้ร่างกายได้มีพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
การทำสมาธิ การทำสมาธิก็คือการปล่อยผ่านทุกอย่างโดยไม่ให้เข้าถึงจินตนาการของคุณเลย การทำให้ความคิดโล่งจะทำให้ร่างกายได้ดูดซักพลังได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลังการทำสมาธิปล่อยใจให้ว่างคุณจะรู้สึกได้เลยว่าสมองของคุณปลอดโปร่งขึ้นแต่ปัญหายังคงอยู่ตรงหน้าคุณก็ตาม แต่พลังงานที่มาเต็มหลังจากให้สมองได้พักมันเหมือนเป็นเวทย์มนต์จริง ๆ
การสร้างเสียงหัวเราะ เป็นการยกเอาความอึกอัดทั้งหมดออกไปจากข้างในของคุณด้วยการหัวเราะ ยิ่งคุณหัวเราะดังเท่าไหร่คุณจะรู้สึกถึงความโล่งและว่างเปล่ามากเท่านั้น เมื่อความโล่งใจเกิดความเข้มแข็งและความพร้อมในการรับศึกกับปัญหาต่าง ๆ ก็มาเต็ม
การทำอโรมา เป็นการผ่อนคลายร่างกายแบบเต็มรูปแบบ การเหนื่อยล้าทางความคิดส่งผลต่อร่างกาย ดังนั้นเมื่อความคิดและร่างกายมีความสัมพันธ์กัน การนวดอโรมาจึงเป็นการสร้างความผ่อนคลายให้กับร่างกาย และเป็นการส่งต่อไปยังสมองส่วนการรับรู้โดยตรง พูดได้ว่าเมื่อร่างกายผ่อนคลายสมองก็ได้ผ่อนคลายไปพร้อม ๆ กัน
3. เสริมด้วยพลังด้วยอาหาร
การได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วน ก็ก่อนให้เกิดภาวะความเครียดได้เช่นกัน ฟังดูไม่น่าเชื่อแต่มันคือความจริง อาหารที่สำคัญต่อสมองของคนเราที่จะช่วยในเรื่องการปรับอารมณ์นั่นคือ Vitamin B ที่ทำหน้าที่ปรับระดับสารเคมีในสมองที่ทำหน้าที่กระตุ้นความรู้สึกดีที่เรียกว่า “เซโรโทนิน” และ”โดปามีน” ให้เกิดความสมดุลเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ
การทำงานของวิตามินบีมีหน้าที่เปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานให้กับร่างกายและส่งต่อไปยังสมองโดยตรง วิตามินบีเป็นสารอาหารที่พิเศษคือละลายน้ำได้ จึงไม่ถูกเก็บไว้ในร่างกาย คุณจึงบริโภคได้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจน
อาหารที่มีวิตามินบีได้แก่ ปลาแซลมอน ข้าวกล้อง ผักโขม ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หอยนางรม หอย พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วดำ ถั่วชิกพี ถั่วเลนทิล ไก่ อาหารอย่างโยเกิร์ต และเมล็ดทานตะวัน อาหารเหล่านี้เป็นแหล่งรวมวิตามินบีมีประโยชน์แบบสิบคะแนนเต็ม แถมยังเป็นแหล่งรวมวิตามินที่ได้จากธรรมชาติอีกด้วย
ไม่ว่าอะไรก็ตาม สิ่งที่จะช่วยปรับความรู้สึกให้เป็นพลังงานที่ดีไม่เพียงแค่ 3 สิ่งหลัก ๆ ทั้งหมดนี้เท่านั้น การจัดการความรู้สึกด้วยตัวเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน การคิดแบบนอกกรอบให้ได้พบเจออะไรใหม่ ๆ ก็เป็นการสร้างความรู้สึกท้าทายและมีพลังได้เหมือนกัน และการดูแลความรู้สึกของตัวเองด้วยการหยุดซ้ำเติมตัวคุณเองด้วยสภาพแวดล้อม การหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมพิษหรือเหตุการณ์แย่ ๆ คุณต้องเริ่มทำให้ได้จากความคิดของตัวคุณเอง howto101
เครดิต : สล็อตแตกง่าย