ทำอย่างไรดีถ้าคุณรู้สึกไม่อยากทำอะไร

เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกทิ้งร่างไม่อยากทำอะไรเลยแม้กระทั่งปล่อยให้ท้องหิวเพราะคุณไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเคี้ยวอาหาร หรือแม้กระทั่งงานบางอย่างที่จำเป็นต้องเสร็จภายในพรุ่งนี้ก่อนสิบโมงเช้า แต่คุณก็ยังไม่มีแรงกระตุ้นหรือแรงจูงใจอะไรที่จะทำมันเหล่านี้ นั่นแปลว่าคุณกำลังเข้าสู่โหมดของการไม่อยากทำอะไรเลยอย่างรุนแรง

อาการนี้เป็นอาการที่เรียกว่า “แรงจูงใจหมด” แต่นั่นไม่ได้แปลว่ามันไม่มี แรงจูงใจมักจะอยู่ในความรู้สึกของเรานั่นแหละมันอาจเป็นไปได้ว่าแรงจูงใจอาจจะหลบอยู่ที่ไหนสักที่ในความรู้สึกของคุณเพียงแต่คุณยังหามันไม่เจอ เรามีวิธีแนะนำเพื่อให้คุณได้กำจัดความรู้สึกแรงจูงใจหมด หรือความรู้สึกไม่อยากทำอะไรเพื่อเอาชนะตัวเองในการบรรลุจุดมุ่งหมายด้วยวิธีการใหม่ ๆ แบบกระตุ้นโลก

1. กำหนดรางวัลให้กับตัวเอง

รางวัลในที่นี้เป็นวิธีที่อาจจะดูเหมือนการหลอกล่อเด็กน้อย แต่จริง ๆ มันก็ใช้ได้ผลเหมือนกัน เมื่อไหร่ที่คุณมีสิ่งที่ต้องทำแต่ยังขาดความรู้สึกว่าอยากจะทำ ลองกำหนดกิจกรรมบางอย่างที่คุณชอบและให้มันกับตัวคุณหลังจากที่คุณทำสิ่งนั้นสำเร็จ เช่น การเดินทางไปพักผ่อน หรือการเข้าคอสสปาเพื่อผ่อนคลาย แต่คุณต้องมีวินัยเอาชนะตัวเองด้วยการทำงานชิ้นนั้นให้สำเร็จก่อน

2. กำหนดการทำโทษเพื่อสร้างแรงจูงใจ

กฏของแรงจูงใจก็คือการไม่มีกฏ ดังนั้นคุณต้องสร้างกฏให้กับสิ่งนี้ในบางครั้ง ให้กฏมีผลด้วยการลงโทษที่ค่อนข้างเข้มเพื่อที่ให้แรงจูใจออกมาจากที่หลบซ่อนอยู่ภายใน คุณอาจจต้องมีผู้ช่วยสำหรับวิธีนี้ เช่น หากคุณไม่ทำงานนี้จนเสร็จคุณจะไม่ได้ออกไปข้างนอกเพื่อซื้อของที่คุณอยากได้ หรือหากคุณทำบางอย่างไม่สำเร็จคุณจะไม่ได้รับประทานอาหารเมนูที่คุณอยากทาน เป็นต้น

ไม่ว่าอะไรก็ตามกฏเกณฑ์การลงโทษหาคุณทำไม่สำเร็จจะต้องมีความเข้มข้นและมีพลังมากเพียงพอที่จะกดดันให้แรงจูงใจของคุณออกมาจากที่ซ่อนไว้ภายใน

3. ใช้แรงกดดันเพื่อสร้างแรงจูงใจ

แรกกดดันจาคนรอบข้างที่มีความสำคัญกับคุณมันมักจะได้ผล เพราะโดยธรรมชาติการที่คุณต้องการทำอะไรให้สำเร็จสิ่งที่คุณคาดหวังคือความภูมิใจและคำชมเชยจากคนรอบข้าง ดังนั้นการให้คนรอบข้างเป็นคนสร้างแรงกดดันให้กับคุณจึงเป็นสิ่งที่ให้ผลลัพธ์ได้ดี

เมื่อไหร่ที่คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว หรือคนรัก หรือเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน สร้างเงื่อนไขให้กับคุณเพื่อพวกเขา มันจะทำให้คุณรู้สึกว่าความชื่นชม ความภูมิใจของคนรอบข้างจะดึงเอาแรงจูงใจในตัวคุณออกมาและคุณจะอยากทำมันให้สำเร็จเพื่อความสุขของคนรอบข้างที่คุณรัก

4. ลดมาตรฐานลง

มาตรฐานในที่นี้หมายถึง การยืดหยุ่นผ่อนคลายกับสิ่งที่กำลังทำให้คุณเกิดความตึงเครียด แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเลิกทำมัน เช่น คุณอาจจะต้องทำงานเขียนของคุณจนเสร็จแต่ความเคร่งเครียดเริ่มก่อตัวขึ้น คุณอาจจะทำมันแค่หนึ่งย่อหน้าหรือแค่เริ่มต้น คุณอาจจะทำอย่างอื่นเช่นการรดน้ำต้นไม้สักพักเพื่อให้สมองของคุณได้ผ่อนคลาย และกลับมาทำมันอีกครั้ง มันจะเป็นการกลับมาเริ่มต้นที่ดีอีกครั้งและได้ผล

5. ใช้วิธีฝึกความเสียดาย

สำหรับคำว่าสูญเสียนี้เป็นการสูญเสียเงินที่เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่อยากต้องเสียมันไปกับเรื่องที่ไม่ควรเสีย แต่คุณต้องมีผู้ช่วยสำหรับภาระกิจนี้ คุณอาจให้แม่ของคุณดึงเงินของคุณเมื่อที่แม่คุณเห็นว่าคุณไม่ทำตามที่สัญญาไว้ เช่น เมื่อไหร่ที่คุณไม่ออกกำลังกายก่อนรับประทานอาหาร หรือคุณไม่ยอมตื่นนอนในตอนเช้า มันจะได้ผลทันทีเมื่อคุณต้องเสียมันไปในครั้งที่ 1 และเชื่อว่าคุณจะไม่ยอมเสียมันในครั้งที่ 2 อย่างแน่นอน

ให้คุณรู้ไว้ว่า การที่คุณไม่อยากทำอะไรเพราะเพียงแค่ขาดแรงจูงใจ คุณไม่ได้เกียจคร้านหรือไม่เอาไหน เมื่อไหร่ที่คุณได้ลองใช้วิธีการเหล่านี้เชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงทางการคิดของคุณจะเปลี่ยนไป และความคิดเหล่านั้นก็จะกลายเป็นแรงจูงใจที่ดีได้ในที่สุด และเปลี่ยนชีวิตของคุณไปตลอดกาล

และโปรดจำไว้ว่า แรงจูงใจส่วนใหญ่คือเป้าหมายสูงสุดของคุณ และการสร้างแรงกระตุ้นที่จะต้องไปให้ถึงเป้าหมายที่คุณวางไว้ howto101

เครดิต : สล็อตแตกง่าย