ก่อนหน้านี้ในยุคก่อนยุคข้อมูลข่าวสาร การเรียนรู้หรือต้องการจะทำอะไรสักอย่างจำเป็นจะต้องค้นหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้าไปเรียนรู้กับเขาโดยตรง แต่เมื่อโลกได้เปลี่ยนไปพัฒนาการด้านเทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในการเข้าถึงความต้องการได้มากขึ้น คุณไม่จำเป็นต้องเดินออกไปนอกบ้านเพื่อเรียนรู้ แต่คุณสามารถที่จะสร้างการเรียนรู้ผ่านทางจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือจากแพลตฟอร์มเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมาย
แต่การเรียนรู้จากหน้าจอเหล่านี้ มันก็ไม่ได้ทำให้คุณกลายเป็นคนที่ทำอะไรได้เป็นในทันทีจากสิ่งที่คุณอยากฝึกฝนหรือเรียนรู้ เพราะคุณไม่ใช่อัลเบิร์ต อัลสไตล์ และพื้นที่การเรียนรู้ก็ต้องมีการวางแผนในการเรียนรู้เพื่อให้เกิดประสิทธิผลอย่างมีประสิทธิภาพ อย่าให้การรับข้อมูลของคุณเป็นเหมือนการกินบุฟเฟ่ต์ เพราะมันจะเละไม่เป็นท่าและคุณจะไม่ได้อะไรจากการเรียนรู้นั้นแต่มันจะกลายเป็นการได้รับข้อมูลที่มากเกินไปจนทำให้คุณ Blank
เรานำวิธีการฝึกการเรียนรู้ให้เกิดการซึมซับของการรับข้อมูลแบบมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้นำไปใช้ ลองมาดูกันว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยคุณได้อย่างไรบ้าง
1. สร้างตัวกรอง
การสร้างตัวกรองข้อมูลทางสมอง Filter out information เป็นการสร้างกำแพงก่อนการรับข้อมูลเข้าไปสู่สมองของคุณ เราถือว่าความรู้ที่คุณได้มาจากการมองหาทางอินเทอร์เน็ตมันอาจจะเรียกได้ว่าเป็นแบบ passive knowledge คุณสามารถรับมันเข้ามาได้เรื่อย ๆ แต่หากคุณไม่ทำอะไรหรือไม่จัดระเบียบมันก็จะทำให้ความรู้เหล่านี้อัดแน่นจนคุณไม่รู้ว่าคุณจะเริ่มใช้ความรู้เหล่านี้อย่างไร แปลว่าคุณกำลังรับข้อมูลมากเกินกว่าการประมวลผลนั้นเอง
ดังนั้น filter จึงมีความสำคัญในเรื่องของการคัดข้อมูลที่คุณต้องการรู้อย่างจริงจัง คุณสามารถเริ่มต้นฝึกจากแหล่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตในเบื้องต้น แต่อย่าลืมว่าบางครั้งข้อมูลที่คุณได้รับเป็นข้อมูลหลังจากทุกอย่างประสบความสำเร็จและมีผลลัพธ์ที่ดีแล้ว แต่ในขณะเดียวกันการฝึกฝนของคุณก็ยังสะดุดติดขัด ดังนั้นคุณจึงจำเป็นที่จะต้องเรียบเรียงแหล่งข้อมูลความรู้ของคุณแบบ step by step เพื่อให้การเรียนรู้ของคุณไม่เกิดการสะดุดและสามารถใช้ข้อมูลนั้นในการเข้ามาแก้ปัญหา และหลังจากคุณเสร็จสิ้นการเรียนรู้ในระดับแรกคุณสามารถ Follow ข้อมูลการเรียนรู้ในอันดับต่อไปได้วันนี้
2. นำข้อมูลสู่โลกความเป็นจริง การพิสูจน์
คุณเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงนั้นก็คือการนำสิ่งที่คุณได้เรียนรู้มาจากในโลกอินเตอร์เน็ตหรือแหล่งข้อมูลต่างๆ คุณได้นำมันเอาออกมาใช้ในการปฏิบัติงานจริง แล้วเวลานี้ก็จะเป็นเวลาที่คุณจะได้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่คุณได้เรียนรู้มาทั้งหมดมีส่วนไหนที่สามารถเอามาปฏิบัติได้จริงและส่วนไหนที่เก็บไว้เป็นเพียงทฤษฎี นัก มันไม่ได้ง่ายนักสำหรับการนำทฤษฎีเข้าสู่โลกความเป็นจริง ดังนั้นสิ่งที่จะตอบคุณและเป็นบทพิสูจน์ที่จะบอกว่าข้อมูลเหล่านี้ใช้ได้จริงนั่นก็คือ เหล่าบรรดาข้อเสนอแนะและคำติชมจากคนรอบข้าง
คุณอาจจะมีความรู้สึกว่าคุณกำลังที่จะบอกตัวเองว่าคุณทำได้ดีแล้ว แต่ให้คุณรู้เอาไว้เลยว่าบทพิสูจน์ของผลลัพธ์จากข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตจะมาจากข้อมูลเชิงลึกของบุคคลอื่นๆรอบตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการปรับปรุงหรือจะเป็นเพื่อการตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อไปในทางนี้
3. หลีกเลี่ยงกับการเสียเวลาในข้อมูลที่ไม่จำเป็น
การยึดเสียเวลานั่นหมายถึงการที่คุณมองหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตในส่วนที่คุณต้องการรู้ และมันเป็นความรู้ใหม่ที่คุณอาจจะต้องนำมันมาลองใช้ และการที่เราบอกว่าอย่าเสียเวลากับข้อมูลที่มันไม่จำเป็น นั่นก็หมายถึงข้อมูลในการเล่าเรื่องที่ไม่ใช่ข้อมูลสำหรับการใช้งาน เช่น คุณกำลังศึกษาวิธีการขับรถ แต่มันอาจจะไม่ใช่เวลาที่คุณจะต้องมองหารุ่นรถที่คุณต้องการ คุณจำเป็นต้องมองหาวิธีการเคลื่อนรถไปข้างหน้าและเลี้ยวโค้งอย่างไรให้สมดุล คุณจะต้องไม่เสียเวลาไปกับข้อมูลอื่น ๆ ที่ไม่ใช่วิธีการขับรถ อย่างนี้เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการฝึกการเรียนรู้ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารเต็มไปหมด วิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่คุณสามารถนำมันมาใช้ในการจัดระบบการรับรู้ข้อมูลของคุณ เพราะในอินเตอร์เน็ตมันมีทั้งข้อมูลที่ดีและข้อมูลที่เป็นมลพิษ แต่มันมักจะอยู่รวมอยู่ในแหล่งข้อมูลเดียวกัน ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการช่วยคุณในการกลั่นกรองสิ่งที่คุณต้องการเรียนรู้จากแหล่งที่มาจากอินเทอร์เน็ต อย่าให้สมองของคุณต้องกลายเป็นแหล่งสะสมข้อมูลโดยปราศจากการประมวลผล ให้วิธีเหล่านี้เป็นตัวช่วยคุณแล้วคุณจะกลายเป็นนักท่องโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างมืออาชีพ howto101