อาการโกรธง่ายเป็นความรู้สึกเมื่อมีสิ่งที่เราไม่ถูกใจหรือไม่เข้าใจเข้ามากระทบใจเรา ถ้าเรารู้สึกโกรธได้ง่ายในทันทีนั่นแสดงว่าเราเป็นคนอ่อนไหวง่าย และมักจะให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล คำถามตลอดเวลาว่าทำไมทุกคนต้องต่อต้านความคิดคุณ หรือทำร้ายจิตใจคุณแบบไม่สนใจ เมื่อไหร่ที่คุณให้ความโกรธมาเป็นตัวนำในการดำเนินชีวิตบอกได้เลยว่าความสัมพันธ์ทุกอย่างของคุณจะพังพินาศได้ง่าย ๆ
เรามีวิธีรับมือและการปรับอารมณ์หากคุณเป็นคนโกรธง่ายให้คุณหายโกรธได้เร็วขึ้นเพื่อทำให้ชีวิตของคุณได้เดินต่อไปอย่างง่าย ๆ และสามารถรักษาความสัมพันธ์ได้ยังยืน
1. ให้เหตุผลเชิงบวกกับพฤติกรรมของคนรอบข้าง
ในบางวันคุณอาจจะคิดไปเองได้ว่าทำไมวันนี้เพื่อนร่วมงานของคุณตอบคุณเพียงสั้น ๆ คุณทำอะไรผิด เก็บความกังวลไว้กับตัวเองทั้งวัน อย่าเก็บเอาการกระทำของคนอื่นหรือทัศนคติบางอย่างที่มันไม่เกี่ยวกับตัวคุณเข้ามาใส่ในความรู้สึกของคุณ เพราะจริง ๆ แล้วพวกเขาไม่ได้ทำอะไรและไม่ได้คิดแบบที่คุณคิด พวกเขาอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากอยู่ในขณะนั้น
2. อย่าเอาอารมณ์โกรธของคุณไปใส่คนอื่น
อย่าแบกเอาความโกรธหรือความเครียดของคุณไปใส่กับคนอื่น ด้วยเหตุผลว่าคุณเพิ่งผ่านวันที่แย่หรือผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่าใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้างที่จะปฏิบัติต่อผู้อื่นไม่ดี เพราะมันเป็นไปได้ว่าพวกเขาก็อาจจะอยู่ในสถานการณ์นี้เหมือนกัน
ในสถานการณ์ที่ลำบากของคุณไม่ใช่เลือกระบายกับคนอื่น ทำให้คนอื่นต้องเสียใจหรือเจ็บปวดจากคำพูดของคุณ วให้คุณจำไว้ว่าแม้ว่าต่อให้คุณจะพยายามอธิบายถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดที่คุณกำลังเจอ ก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวในการระบายอารมณ์นั้นกับผู้อื่น
3. หยุดใช้นิสัยส่วนตัว
จริงอยู่คุณอาจจะมีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ได้น้อยจนถึงต่ำมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะพูดทุกอย่างในสิ่งที่คุณไม่ชอบเพียงเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าคุณต้องการเป็นตัวของตัวเอง เพราะการเป็นตัวเองด้วยการพูดออกไปแบบไม่กลั่นกรองต่อคนอื่นมันอาจจะเป็นการเสียมารยาทโดยไม่รู้ตัว
เมื่อไหร่ที่คุณยังต้องอยู่ในสังคมที่โหดร้าย และสังคมศิวิไลในเวลาเดียวกันสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงเส้นบาง ๆ ระหว่างการเป็นตัวเองกับการไม่มีมารยาทมันแทบแยกไม่ออก ดังนั้นคุณควรรู้จักสังเกตก่อนที่คุณจะตัดสินหรือพูดอะไรออกไปด้วยอารมณ์ส่วนตัว เพื่อให้บริบทของความให้เกียรติผู้อื่นยังคงอยู่ในตัวคุณ
4. ควบคุมอารมณ์
เมื่อคุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องรับมือกับคนที่ไร้เหตุผล อันธพาล ในเหตุการณ์ที่คุณไม่คาดคิด คนเหล่านี้มักมีจุดประสงค์ให้คุณแสดงออกเพื่ออยู่ข้างเดียวกับพวกเขาหรือสร้างอารมณ์โกรธไปด้วยกัน ให้คุณเปลี่ยนความคิดที่จะระเบิดอารมณ์โกรธเพื่อให้ไปในทางเดียวกับคนพาลเหล่านั้น เป็นการนิ่งและมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต้องใช้ความเห็นอกเห็นใจมากกว่าการเอาแต่ใจ ไม่มีใครผิดและไม่มีใครถูกในสถานการณ์บางอย่างก็เป็นได้
5. ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร
แน่นอนว่าการมีการสื่อสารกับคนรอบข้าง หากคุณเปิดการสนทนาด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวหรือแสดงความคิดเห็นที่คนฟังรู้สึกว่าตัวคุณเป็นศูนย์กลางจักรวาล จะทำให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานมีปัญหาแน่นอน ให้คุณใช้สติสักเล็กน้อยก่อนที่จะแสดงอารมณ์หรือการใช้คำพูดที่คำนึงถึงผลที่จะได้รับจากผู้ฟังในเวลานั้นให้มาก และการสื่อสารที่ดีก็จะบอกถึงการที่คุณมีวุฒิภาวะที่ดีด้วย
6. ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายถูกเสมอ
อย่าเอาความมั่นใจในความคิดของตัวเองมาอยู่เหนือทุกคน เพราะมันไม่จำเป็นเสมอไปว่าความคิดของคุณจะถูกต้องไปทั้งหมด หรือก็ไม่ใช่คนอื่นจะต้องถูกไปเสียหมด เพียงแค่ให้การสนทนาได้สลับการเป็นผู้พูดไปเป็นผู้ฟังที่ดีในบางครั้ง จะทำให้อรรถรสในการสนทนาที่มาจากการถ่อมตัวทั้งหมดสร้างภาพลักษณ์ของคุณให้ดูดีขึ้นได้
7. ตั้งใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เมื่อเป้าหมายของคุณต้องการอยู่ในสังคมด้วยความสุข การเคารพผู้อื่นจึงเป็นเรื่องสำคัญ คุณอาจจะรู้ตัวคุณเองดีว่าคุณอาจจะเป็นคนที่โกรธง่าย แต่หากคุณมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงคุณจะกลายเป็นผู้ฟังที่ดีคนหนึ่งเลยทีเดียว การเปลี่ยนแปลงตัวเองมันอาจจต้องใช้เวลาา ดังนั้นคุณต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น และฝึกการเคารพผู้อื่นจนกลายเป็นนิสัย
ทุกข้อที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการปรับทัศนคติเรื่องนิสัยส่วนตัวของคุณ หากคุณสามารถทำความเข้าใจกับความหมายของทุกหัวข้อและนำไปปฏิบัติตาม รับรองว่าคุณจะกลายเป็นคนที่มีเสถียรภาพและเป็นคนที่มีวุฒิทางอารมณ์ที่สูง และผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็คือการได้รับการยอมรับจากผู้คนรอบข้างที่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของนิสัยที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่คุณจะได้รับการยกระดับวุฒิภาวะของตัวคุณเองอีกด้วย
อย่าลืมว่าการที่คุณมองเห็นความบกพร่องทางด้านอารมณ์ของตัวเอง นั่นแปลว่าคุณเป็นคนที่มีศักยภาพในสังคม เป็นคนที่สามารถแสดงให้คนอื่นเห็นและเป็นตัวอย่างให้กับใครในหลาย ๆ คนในองค์กร คุณจะได้รับความภูมิใจในตัวคุณ และคุณจะรู้สึกว่าตัวคุณเองเป็นคนที่มีคุณค่าต่อสังคม