ฝึกเป็นนักอ่านที่มีความจำดีเลิศ

การอ่านหนังสือเป็นพฤติกรรมการทำงานหรือการหาความรู้วิธีหนึ่งแต่เรายังไม่รู้เลยว่าบางครั้งการที่เราอ่านหนังสือเราอ่านมันไปแล้วเรามีความเข้าใจมันเพียงชั่วขณะเวลาเท่านั้นเองแต่เราไม่สามารถที่จะจำบทความในหนังสือได้ทั้งหมดนั่นเป็นเพราะอะไร มันอาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจำนวนสมองที่ลงมีหรือเซลล์สมองที่เรามีมากหรือน้อยแต่มันอาจจะเป็นที่พฤติกรรมก็อาจจะเป็นได้

หากคุณอยากเป็นนักอ่านที่มีความจำที่เป็นเลิศ เรามีวิธีการที่จะทำให้คุณกลายเป็นนักทานและกลายเป็นนักจดจำด้วยการที่คุณปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อที่จะช่วยให้การอ่านหนังสือของคุณจะไม่ทำให้เกิดการเสียเวลาอีกต่อไปเรามาดูกันว่าเราควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรและมีวิธีการทำอย่างไรที่ทำให้เราเป็นคนที่มีความจำเป็นเลิศจากการอ่าน

1. ทำความคุ้นเคย

การสร้างความคุ้นเคยกับสิ่งที่คุณอ่านคำว่าคุ้นเคยในที่นี้มันไม่ได้หมายความว่าคุณจะคุ้นเคยกับการจับหนังสือเพียงเท่านั้นคุณจะต้องรู้ด้วยว่าเรื่องไหนที่คุณต้องการที่จะอ่านมันและคุณทำความเข้าใจกับมันมาเบื้องต้นบ้างแล้วหรือยัง พูดง่ายๆก็คือว่าการที่คุณต้องการที่จะอ่านหนังสือเล่มที่คุณต้องการที่จะรู้จักกับมันเท่านั้นเอง คุณคงจะไม่อ่านวรรณกรรมที่คุณไม่ชอบหากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของวิทยาศาสตร์ 

ดังนั้นการสร้างความคุ้นเคยนั้นก็คือเมื่อคุณอยากจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับชีวประวัติของใครสักคนหนึ่งนั้นแปลว่าคุณได้รู้เบื้องต้นเกี่ยวกับชีวประวัติของคนคนนั้นมาสักระยะหนึ่งแล้วแล้วคุณต้องการที่จะเรียนรู้มากขึ้นทำให้คุณต้องเปิดหนังสืออ่านนั่นคือจะสร้างขั้นตอนในลำดับการสร้างความจำให้คุณได้ในขั้นตอนต่อ ๆไป

2. Focus

การโฟกัสหรือการที่เราเรียกว่าการสร้างความสนใจกับมันคุณไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านหนังสือเล่มที่คุณอยากจะอ่านไปในขณะที่คุณกำลังทำอาหารหรือในขณะที่คุณกำลังเช็คอีเมลทางโทรศัพท์ ก็คุณก็รู้อยู่แล้วว่าคำว่าโฟกัสหมายถึงการที่คุณจะต้องมุ่งไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้นการอ่านหนังสือในเล่มที่คุณต้องการที่จะรู้จักกับมันก็เช่นกัน การที่คุณโฟกัสไปกับมันในเวลาเดียวอย่างเดียวและคุณไม่ทำอย่างอื่นควบคู่ไปกับมัน เพราะไม่เช่นนั้นสมองหรือสมาธิที่คุณต้องการที่จะต้องใช้ทำความเข้าใจกับข้อมูลทั้งหมดเลยหนังสือเล่มนั้นมันจะไม่สามารถสัมฤทธิ์ผลได้หากคุณมีกิจกรรมอย่างอื่นควบคู่ไปกับสิ่งนั้นด้วย

ดังนั้นการโฟกัสหนังสือให้ได้ผลนั่นก็แปลว่าคุณควรที่จะหยิบหนังสือเพียงอย่างเดียวและคุณควรที่จะใช้เวลาทั้งหมดกับการอ่านหนังสือการเลือกเวลาที่เหมาะสมและมันควรจะเป็นในเวลาที่คุณจะต้องใช้กับหนังสือเล่มนั้นเพียงอย่างเดียว คุณควรจะปิดรับการสื่อสารคุณควรจะหยุดการทำงานทั้งหมดที่คุณกำลังทำอยู่เพื่อให้หนังสือเล่มนั้นสามารถตอบโจทย์หรือตอบคำถามในสิ่งที่คุณอยากรู้หรือให้หนังสือเล่มนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาสมองของคุณให้มีความรู้ที่มากขึ้นโดยปราศจากการสอแทรกใด ๆ จะเป็นการช่วยให้คุณโฟกัสได้มากที่สุด

3. คิดตามในสิ่งที่คุณกำลังอ่าน

ต่อให้คุณจะต้องเป็นคุณแม่มือใหม่ที่จะต้องอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับลูกของคุณคุณก็ยังสามารถที่จะเป็นนักอ่านหนังสือและเป็น เป็นผู้ที่มีความจำได้ดีเลิศได้คุณสามารถใช้เวลาเพียง 10 นาทีหรือ 5 นาทีก่อนที่ลูกของคุณจะตื่นหรือหลังจากที่ลูกของคุณหลับแล้วหรือหลังจากที่คุณเสร็จงานบ้านคุณสามารถหยิบหนังสือขึ้นมาและคุณสามารถอ่านมัน

และการอ่านหนังสือที่ทำให้คุณมีความจำมันไม่ใช่การท่องจำหรือการท่องตัวหนังสือทุกตัวในหนังสือเล่มนั้นการเป็นนักจินตนาการจะช่วยคุณได้มากสำหรับการอ่านหนังสือสักเรื่องหนึ่งไม่ว่าจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นนวนิยายหรือจะเป็นชีวประวัติคนสำคัญที่คุณอยากรู้  จินตนาการในขณะที่คุณอาจจะเป็นเรื่องสำคัญคุณสามารถให้ความหมายในแต่ละตัวหนังสือให้จินตนาการไปในตามหนังสือที่เล่าเรื่องนั้นออกมาให้คุณคิดตามเหมือนคุณกำลังอยู่ในโลกของหนังสือเล่มนั้น คุณรู้ไหมว่าคนฉลาดมักจะใช้ความเข้าใจมากกว่าการท่องจำ 

4. อ่านออกเสียง

คุณรู้ไหมว่าการอ่านออกเสียงมันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณกำลังทำอะไรที่มันไร้สาระแต่การอ่านออกเสียงจะเป็นการที่ช่วยให้คุณได้ฟังเสียงมากขึ้น และทำให้สมองของคุณถูกกระตุ้นมากขึ้น นอกเหนือจากการอ่านเพียงสายตาเท่านั้น เพราะความสามารถพิเศษของคนเราอีกอย่างหนึ่งบางคนสามารถจดจำได้มากกว่าจากการได้ยินเสียงมากกว่าการอ่านเป็นตัวหนังสือแต่ในขณะเดียวกันคุณสามารถสร้างความพิเศษในตัวของคุณเองได้ทั้ง 2 ทาง 

และการอ่านออกเสียงยังช่วยคุณได้มากอีกทางหนึ่งเช่นกันโดยปกติแล้วคุณอาจจะอ่านหนังสือด้วยความเร็วจนทำให้คุณต้องข้ามในส่วนที่สำคัญไปแต่การอ่านออกเสียงจะทำให้เป็นการเตือนตัวคุณเอง ในขณะที่คุณกำลังอ่านมันจะทำให้เป็นการดึงสมาธิและดึงความเร็วของคุณลงเพื่อสร้างความชัดเจนและ ทำให้คุณสามารถเก็บได้ทุกรายละเอียดทุกตัวหนังสือและทุกความเข้าใจ 

และสุดท้ายบทสรุปให้คุณรู้ไว้ว่าการอ่านมักจะมาคู่กับการจดบันทึกเสมอในการอ่านของคุณในบางครั้งการที่คุณต้องการจะใส่ใจบางส่วนเป็นพิเศษคุณอาจจะใช้วิธีการจดบันทึกเข้ามาช่วยเพื่อให้คุณได้ตอกย้ำในสิ่งที่คุณต้องการที่จะจดจำในหนังสือเล่มนั้น การอ่านไม่ได้เพียงช่วยทำให้คุณฉลาดมากขึ้นจะทำให้คุณใจเย็นลงและทำให้คุณกลายเป็นคนที่มีสมาธิและเป็นคนที่ สามารถใช้เหตุและผลในการดำเนินชีวิตได้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่าคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ howto101

สล็อตออนไลน์