ฟันจะสะอาดต้องมีอุปกรณ์ที่สามารถจัดการคราบสกปรกได้อย่างดี ใช่เรากำลังพูดถึง “แปรงสีฟัน” อุปกรณ์ทำความสะอาดฟันที่สำคัญ เพราะแปรงสีฟันเป็นตัวจัดการคราบที่ฝังอยู่ที่ฟันของคุณ และแน่นอนว่าเมื่อแปรงสีฟันของคุณมีคุณสมบัติที่ดี ฟันและช่องปากของคุณก็จะไม่ป่วย
มีคำแนะนำการดูแลรักษาและเลือกใช้แปรงสีฟันเพื่อให้ฟันของคุณสะอาด ภายในช่องปากมีสุขภาพดี พร้อมวิธีการดูแลรักษาแปรงสีฟันให้สะอาดพร้อมใช้ และคุณจะหมดความกังวลใด ๆ หากได้อ่านคำแนะนำทั้งหมดนี้
การใช้แปรงสีฟัน
1. ล้างมือก่อนจับแปรงสีฟัน เป็นขั้นตอนที่จัดว่าเบสิคที่สุดเมื่อเทียบกับขั้นตอนอื่น ๆ ทำไมเราต้องล้างมือ? เพราะมือของเราเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคชั้นดีที่เหนียวแน่น ให้คุณล้างมือด้วยน้ำ และใช้สบู่ถูให้ทั่วมือทุกซอกมุม ถูไปเรื่อย ๆ ประมาณ 20 นาที และล้างออก เช็ดมือให้แห้งด้วยผ้าสะอาด มันอาจดูวุ่นวายสักหน่อยแต่เพื่อสุขอนามัยที่ดีต่อช่องปากของคุณ เพราะเชื้อโรคสามารถถ่ายจากมือของคุณไปสะสมในขนแปรงสีฟันได้โดยไม่รู้ตัว
2. ล้างแปรงให้สะอาดหลังใช้ ทุกครั้งหลังการใช้งาน ในขั้นตอนมีการล้างเป็นปรกติ แต่ให้คุณเพิ่มความใส่ใจในการล้างอีกสักหน่อย ด้วยการปล่อยน้ำให้ไหลผ่านและให้ทำความสะอาดขนแปรง จนคุณรู้สึกว่ามันสะอาดไม่มีคราบยาสีฟันเหลือ แขวนไว้ในที่ที่สามารถให้น้ำไหลออกได้ ให้ใช้อากาศเป็นตัวทำให้แปรงสีฟันแห้ง อย่าใช้ผ้าเช็ดเพราะแบคทีเรียในผ้าอาจจะสะสมไว้ที่ขนแปรงได้
3. ไม่ใช้แปรงร่วมกัน ส่วนใหญ่จะพบในเหล่าบรรดาคู่รัก หรือพ่อ แม่ ลูก มันเป็นสิ่งที่มีโอกาสพบเชื้อโรคจากของเหลวในร่างกายของทุกคน ทำให้มีโอกาสถ่ายโอนเชื้อโรคไปสู่กัน ไม่แนะนำให้คุณใช้แปรงสีฟันร่วมกันเด็ดขาด คุณอาจจะป่วยได้
การจัดเก็บแปรงสีฟันที่ถูกวิธี
1. เก็บแปรงสีฟันของคุณในอุปกรณ์แบบเปิด การใช้อุปกรณ์ที่เป็นแบบ open เป็นการช่วยให้คุณได้ใช้อากาศในการทำให้แปรงแห้งสนิทและปลอดเชื้อโรค เพราะอากาศแห้งเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยปรกติอากาศจะไหลเวียนรอบๆ แปรงสีฟันทำให้แปรงสีฟันแห้งเร็วขึ้น และการจัดวางอุปกรณ์ในแนวตั้งเป็นการจัดการน้ำที่ตกค้าง
2. แยกแปรงสีฟันออกจากกัน การจัดการกับการจัดเก็บแปรงสีฟันก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะเราพยายามที่จะไม่ให้แปรงสีฟันไปสัมผัสกับวัตถุอย่างอื่นเพื่อป้องกันเชื้อโรคที่ตกค้างหรือการสะสมของเชื้อโรค ดังนั้นเมื่อคุณใช้แปรงสีฟันเสร็จแล้ว ให้คุณทำตามขั้นตอนก่อนหน้า และจัดการแยกแปรงสีฟันให้ห่างกัน ไม่ควรให้เกิดการสัมผัสเพราะเมื่อไหร่ที่แปรงสีฟันสัมผัสกัน จะทำให้เกิดการถ่ายเทเชื้อโรค เพราะคุณไม่รู้ว่ามีใครที่มีอาการป่วยหรือไม่รักษาความสะอาดที่แปรงสีฟันของพวกเขา
3. วางที่วางแปรงสีฟันให้ห่างจากชักโครก มีหลายคนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อห้องอาบน้ำและห้องสุขาต้องอยู่ในบริเวณเดียวกัน คุณรู้ไหว่าละอองของสิ่งที่คุณขับถ่ายสามารถเข้าถึงแปรงสีฟันของคุณได้หากคุณวางไว้ใกล้กันเกินไป ให้คุณวางแปรงสีฟันไว้ด้านนอกหากเป็นไปได้ หรือคุณต้องวางให้ห่างจากชัดโครกของคุณมากพอสมควรปิดฝาชักโครกทุกครั้งหลังการใช้งาน ขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้สามารถสร้างความสะอาดให้แปรงสีฟันของคุณได้
4. ทำความสะอาดแปรงสีฟันและอุปกรณ์แบบล้ำลึก คุณจำเป็นต้องทำความสะอาดแปรงสีฟันของคุณด้วยน้ำร้อน หรือทำการฆ่าเชื้อโรคสัปดาห์ละครั้งเป็นอย่างน้อย รวมไปถึงอุปกรณ์ที่คุณใช้สำหรับวางแปรงสีฟันด้วย คุณต้องนำทั้งหมดนี้มาทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำร้อน เพื่อให้เชื้อโรคที่สะสมหลุดออก หลังจากให้เช็ดให้อุปกรณ์แห้งด้วยผ้าสะอาด ไม่ต้องเช็ดแห้งในส่วนของแปรงสีฟัน และทำความสะอาดปรกติในวันอื่น ๆ จะช่วยให้แปรงสีฟันของคุณสะอาดขึ้นปลอดเชื้อโรคมากขึ้น
วิธีฆ่าเชื้อที่ปลอดภัย

1. แช่แปรงสีฟันในน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาทำความสะอาดในที่นี้คือ Hydrogen Peroxideหรือที่เรารู้จักกันก็คือน้ำยาบ้วนปากเพื่อทำความสะอาด โดยการเทน้ำยาบ้วนปากใส่ในภาชนะที่สะอาดในปริมาณที่ท่วมหัวแปรง คว่ำแปรงสีฟันลง แช่ทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 20 นาที แล้วล้างอองด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
2. เจลทำความสะอาดแปรงสีฟันยูวี คุณสามารถหาซื้อเจลทำความสะอาดแปรงสีฟัน และใช้มันในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่แปรงสีฟัน กรณีนี้แนะนำให้ทำสำหรับครอบครัวที่มีผู้เจ็บป่วย ที่มีโอกาสติดเชื้อสูง คุณสามารถเลือกซื้อเจลที่มีการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่จะรับรองในความปลอดภัย
3. เปลี่ยนแปรงสีฟัน การเปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นเรื่องที่ต้องรู้ ให้คุณเปลี่ยนแปรงสีฟันอย่างน้อยที่สุดในทุก 3 เดือน เพราะชนแปรงส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานที่ไม่เกินไปจากนี้ หากคุณใช้งานแปรงสีฟันของคุณนานเกินไป ขนแปรงที่เสื่อมสภาพก็จะไม่สามารถทำความสะอาดได้ล้ำลึก และที่สำคัญระยะเวลาใช้งานที่สั้นจะเป็นการลดการสะสมเชื้อโรคให้สั้นลงด้วย
4. เปลี่ยนแปรงสีฟันหลังอาการเจ็บป่วย เข้าใจกันแบบง่าย ๆ เมื่อไหร่ที่คุณมีอาการเจ็บป่วย หลังจากที่คุณหายดีให้คุณเปลี่ยนแปรงสีฟันอันใหม่ทันทีอย่าเสียดาย เพราะคุณใช้แปรงสีฟันในขณะที่ป่วยเชื้อโรคจะอยู่ที่แปรงสีฟันของคุณ เมื่อคุณหายป่วยแล้วไม่ควรกลับไปใช้อีกเพราะจะทำให้เชื้อโรคกลับเข้าสู่ร่างกายของคุณอีกครั้ง
เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ได้อ่านความรู้เหล่านี้กำลังกลับไปเปลี่ยนแปรงสีฟัน และดูแลแปรงสีฟันมากขึ้นกว่าเดิม หลายคนอาจเคยมองข้ามไป ตอนนี้คุณได้รู้แล้วว่าแปรงสีฟันมีความสำคัญสำหรับสุขภาพของคุณมากพอ ๆ กับการดูแลร่างกายส่วนอื่น บางทีการให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กน้อยก็สามารถสร้างสุขภาพที่ดีได้เหมือนกัน อย่ามองข้ามเรื่องเล็ก ๆ อีกต่อไป howto101