การทำงานที่แสนจะเหนื่อยล้าและงานที่ล้นมือ คุณรู้ไหมว่าความอ่อนล้าและเหน็ดเหนื่อยเหล่านี้ทำให้เกิดอาการขี้เกียจและจะส่งผลไปถึงการผัดวันประกันพรุ่งซึ่งจะส่งผลเสียต่องานที่คุณกำลังทำและต้องทำให้เสร็จ เรามีวิธีรับมือกับปัญหาเหล่านี้ อ่านตามและคิดตามอย่างช้า ๆ แล้วคุณจะเห็นผลที่คุณจะก้าวผ่านมันไปได้
ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าการผัดวันประกันพรุ่งที่เกิดจากความขี้เกียจนั่นเป็นเพราะว่า คุณอาจจะเบื่อกับงานที่ทำ หรืออาจจะทำงานอื่นที่มากจนเกินไป เรามาดูกันว่าคุณจะสามารถเรียนรู้วิธีรับมือกับมันได้อย่างไรบ้างตามวิธีต่อไปนี้
1. ตรวจสอบเวลาของคุณ
การผลัดวันประกันพรุ่งเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาเพียงสั้น ๆ หรือเวลาที่เหลือเฟือ แต่สิ่งที่คุณต้องตรวจสอบเวลาก่อนนั่นคือคุณต้องเรียงลำดับความสำคัญของงานก่อนในขณะที่งานของคุณอยู่บนมือคุณทั้งสองมือพร้อมกัน คุณลองนึกภาพหากคุณเป็นหมอ และมีผู้ป่วยฉุกเฉินรอการรักษาในเวลาที่จำกัดเพื่อการยื้อชีวิต คุณจำเป็นจะต้องเลือกดึงคนป่วยที่มีอาการอยู่ในขีดอันตรายที่สุดเข้ามาดูแลก่อน และการจัดการกับผู้ป่วยในรายต่อ ๆ ไป นั่นคือถ้าคุณสามารถจัดลำดับความสำคัญได้ งานจะเสร็จได้ภายในลำดับเวลา และความขี้เกียจจะไม่เกิดขึ้น
2. การแยกอันดับงาน
เมื่อไหร่ที่งานของคุณถูกกองอยู่ตรงหน้าจนท่วมแทบไม่เห็นหน้าของคุณ อันดับแรกอย่าตกใจ ให้คุณตั้งสติแล้วค่อย ๆ แยกงานออกมาเป็นส่วน ๆ เพื่อให้คุณได้ทำทีละส่วนจนเสร็จและครบถ้วน มันจะช่วยให้คุณทำงานได้ง่ายกว่า และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว คุณจับงานย่อยทั้งหมดมารวมกัน มันจะทำให้คุณไม่รู้สึกล้าและหนักมากเกินไป และสามารถก้าวข้ามความขี้เกียจจนไปสู่งานที่เสร็จสมบูรณ์
3. การลดความสมบูรณ์แบบลง
เราไม่ได้บอกคุณว่าไม่ให้คุณทุ่มเทกับงานที่ทำ แต่เรากำลังบอกคุณว่าคุณอาจจะเป็นคนที่ต้องการทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและไม่เคยพอใจในสิ่งที่ทำ ชัดเจนที่สุดคือการดิ้นรนที่จะสมบูรณ์แบบมันจะทำให้ไม่สมบูรณ์แบบ และการผลัดวันประกันพรุ่งมักจะแฝงอยู่ในความต้องการสมบูรณ์แบบเสมอ เพราะคุณจะไม่สนใจในงานอื่น จะมุ่งมันอยู่กับคำว่าสมบูรณ์แบบ จนทำให้งานไม่มีความสำเร็จ วิธีแก้คือให้คุณทำงานของคุณให้เสร็จและเมื่อเวลายังคงเหลือเพราะไม่มีการผลัดวันประกันพรุ่ง คุณสามารถกลับไปตรวจสอบและทำมันให้สมบูรณ์แบบได้อีกครั้ง
4. กำหนดขอบเขตของตัวเอง
มีหลายคนที่ทำงานหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกันแต่ในงานเหล่านั้นมักจะมีงานในส่วนอื่นปะปนเข้ามาอยู่เสมอ สาเหตุนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างการผลัดวันประกันพรุ่ง แน่นอนว่าสิ่งที่เหล่านี้มักจะควบคู่ไปกับความสำเร็จที่มาพร้อมกับภาระความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น มีผู้คนหลายประสบความสำเร็จแต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถได้ทำงานของพวกเขาได้อย่างแท้จริง ดังนั้นเมื่อไหร่ที่คุณพบว่าตัวเองกำลังแบกรับปัญหาของโลก มันจะทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ที่ก้นบึ้งของโลก ให้คุณให้ลิมิตตัวเองก่อนก่อนที่คุณจะพยายามดูแลใคร เพราะคุณต้องให้ตัวเองเป็นความสำคัญที่สุดก่อน
5. กำหนดเวลา
คุณรู้ไหมว่ามนุษย์เรามีสมองที่เป็นอวัยวะที่ทรงพลังที่สุด เพราะสมองจะเป็นตัวสั่งงานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสั่งให้คิดหรือสั่งให้ทำ แต่สมองก็ยังต้องการเวลาของมันเหมือนกัน คุณจำเป็นต้องกำหนดเวลาสมองไม่ให้มันต้องทำงานที่นานจนเกินไป เพราะการให้สมองจนไม่ได้หยุดพัก สมองของคุณจะทำงานได้อย่างไม่เที่ยงตรงนักเพราะความเหนื่อยล้า
การกำหนดเวลาเป็นสิ่งที่คุณต้องทำแทนการผลัดวันประกันพรุ่ง เพราะเมื่อคุณรู้เวลาในการทำงานมันจะทำให้คุณปลดเปลี้องความขี้เกียจ และงานจะเสร็จตามเวลาและมีคุณภาพ เพราะเวลาสามารถเป็นตัวกำหนดทุกความเคลื่อนไหวและสร้างงานที่คุณภาพและก้าวข้ามความขี้เกียจและผลัดวันประกันพรุ่งได้ดี
และไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม อย่ารอจนถึงนาทีสุดท้ายในการทำสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะผลลัพธ์ของการรอจนวินาทีสุดท้ายคือความกังวลจนเกิดการผัดวันประกันพรุ่งได้อย่างไม่รู้ตัว
และคิดว่าบางทีวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับการผัดวันประกันพรุ่งที่เกิดจากความวิตกกังวลอย่างมีประสิทธิภาพคือการกำหนดตัวเอง และการให้ลิมิตตัวเองด้วยวิธีทั้งหมดที่กล่าวมา รับรองว่าคุณจะรู้สึกถึงความหึกเหิมจนสามารถลดความวิตกกังวลและตัดความผัดวันประกันพรุ่งออกไปได้หมดเหลือไว้เพียงคุณภาพและสมบูรณ์แบบ