หากคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่าพร้อมแล้วจริง ๆ กับการเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต และคุณยอมรับที่จะอยู่กับคู่ชีวิตไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่เชื่อไหมว่าการแต่งงานไม่ใช่การปิดประตูแห่งความเหงาเสมอไป มีหลายคู่ที่เกิดความเหงาแบบนี้เพราะถูกละเลยในบางเวลา ความเหงาสะสมมักจะทำให้ชีวิตคู่สะสมความเหงาและพังลงในที่สุด
เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ชีวิตคู่จะเริ่มเข้าสู่การโต้แย้ง ขัดใจ และเอาแต่ใจ จนลืมความรู้สึกว่าคุณเคยรักกันมากแต่ไหน การเก็บกดจากความกดดันเป็นตัวทำลายความสัมพันธ์เหมือนระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่รอวันระเบิดทุกอย่างตรงหน้า และมีโอกาสนำไปสู่ภาวะมือที่สามแบบไม่รู้ตัว
ความรู้สึกเหล่านี้จะเกิดขึ้นช้าลงหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลยหลังจากที่คุณได้อ่านบทความต่อจากนี้ เราจะให้คุณได้ทำความเข้าใจถึงที่มาของความรู้สึกนี้ และบอกถึงวิธีการรับมือเพื่อรักษาชีวิตคู่ของคุณให้ยืนยาวอย่างไร
สาเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกเหงาในชีวิตคู่
มีหลายตัวแปรที่ทำให้ความเหงาสร้างปัญหากับชีวิตคู่จนกลายเป็นปัญหาสะสม มาดูที่มาของสาเเหตุเหล่านี้เพื่อหาวิธีการรับมือ
1. ความรู้สึกกลัวคู่สมรสของคุณมากเกินไป
ความกลัวในที่นี้เป็นความกลัวในการพูดคุยในเรื่องบางเรื่อง และบังเอิญว่าเรื่องที่คุณพูดได้กลายเป็นเรื่องสำคัญและมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตคู่ หรืออีกสาเหตุหนึ่งคู่สมรสของคุณเป็นคนที่ชอบทำร้ายจิตใจและอารมณ์ของคุณด้วยคำพูดที่รุนแรง ทำให้ความกลัวระแวงเกิดขึ้นในใจ
ผลกระทบของความรู้สึกนี้สร้างความหดหู่เป็นทุกข์ที่สะเทือนใจที่สุด คุณจะเริ่มออกจากวงการเพื่อนและคนครอบครัวเพราะความกังวลที่จะต้องเจอการเสียดสีทางอารมณ์จากคู่สมรสของคุณ ความเหงาจะเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ จนฝังในความรู้สึกคุณในที่สุด
2. การขาดการดูแลความรู้สึก
เรื่องของความรู้สึกกับชีวิตสมรสสำคัญมาก เพราะหลังจากการสมรสคนที่เคียงข้างคุณคือคู่ชีวิตที่จะอยู่กับคุณตลอดไป ดังนั้นในเรื่องของช่วงเวลาชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ ปัญหาเรื่องนี้อธิบายได้อย่างง่าย ๆ ว่า ไม่ว่าในสถานการณ์ไหนคู่ชีวิตจะต้องให้การสนับสนุนทางอารมณ์ในช่วงเวลานั้น เช่น เมื่อคุณรู้สึกตกอยู่ในเวลายากที่สุดในชีวิต แต่มันกลับหายไป นั่นแสดงว่าการดูแลหรือการสนับสนุนความรู้สึกของคุณและคู่ชีวิตของคุณล้มเหลวในการแสดงความเห็นอกเห็นใจสิ่งนี้จะค่อย ๆ บั่นทอนความสัมพันธ์และความเหงาจะเริ่มเข้ามาในชีวิตแต่งงานของคุณ
3. การได้รับบาดแผลในชีวิต
ปัญหาของการมีบาดแผลมักจะเป็นตัวทำให้ชีวิตคู่เริ่มห่างออกไปอย่างช้า ๆ เช่น คนใดคนหนึ่งเคยนอกใจ และกลับมาเพื่อขอโทษ หรือการมีปัญหากับคนในครอบครัวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ต่อให้มีการกลับมาเพื่อใช้ชีวิตกันต่อ แต่บาดแผลเหล่านั้นก็ไม่ยอมหายไป เพราะคนสองคนไม่ยอมที่จะลืมมันอย่างที่บอกว่าจะเริ่มต้นกันใหม่ และความเหงาจากความเจ็บปวดนี้จะตกอยู่กับคนที่ได้รับผลกระทบ จนทำให้เป็นความรู้สึกเหนื่อยและเคว้งคว้างในที่สุด
วิธีรับมือกับปัญหาความเหงารุมเร้าหลังจากแต่งงาน
การหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญ การฝึกการยอมรับและหันหน้าเข้าหากันเป็นเรื่องจำเป็น ความเหงาจะไม่ตามหลอกหลอนชีวิตคู่ของคุณอีกต่อไปจากวิธีการรับมือดังนี้
1. กำหนดวันพิเศษในสัปดาห์
การตอกย้ำด้วยการทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อดึงความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างน้อย 1 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้กิจกรรมเหล่านี้เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์และตอกย้ำให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รู้ว่าชีวิตคู่ของพวกคุณยังอยู่ เช่น การไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยกันทั้งครอบครัว การหากิจกรรมที่ลูกชอบโดยให้คุณทั้งสองมีส่วนร่วม การทำกิจกรรมที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชอบ หรือแม้กระทั่งการทำอาหารหารมื้อใหญ่ กิจกรรมทั้งหลายเหล่านี้เป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีมาก เพราะจะเป็นการเน้นย้ำความผูกพันธ์ที่พวกคุณมีต่อกัน ลองหางานอดิเรกที่สามารถทำได้ทั้งสองคนทำร่วมกันดู และคุณจะเห็นว่าความสุขสร้างได้ทุกวัน
2. คุย และคุย
การสื่อสารเป็นเรื่องที่ต้องทำสำหรับชีวิตคู่ ไม่ว่าคุณจะรู้สึกแบบไหนหรือเจออะไรมาคุณต้องเปิดเผยทุกอย่างให้กับอีกฝ่าย เพื่อเป็นการใช้เวลาร่วมกันในการรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายหนึ่งมันเป็นการเชื่อมโยงชีวิตของคนสองคนเข้าด้วยกัน ต่อให้อีกฝ่ายมีท่าทีที่ไม่อยากฟังคุณก็ยังคงต้องคุยและคุยไปเรื่อย ๆ จนการคุยเป็นความเคยชินและเป็นส่วนหนึ่งของคุณและคู่ของคุณ และคำว่าคุยนั่นก็คือการคุยทุกเรื่องแบบไม่มีความลับ อย่าอายที่จะพูดเพราะเมื่อเป็นคนรักจะไม่มีการเยาะเย้ยซึ่งกันและกัน หากคุณทำได้คุณจะออกจากความเหงาและไม่รู้จักความเหงาอีกเลย
3. เดินทางตามความทรงจำ
ไอเดียนี้เห็นผลมานักต่อนัก การตอกย้ำความสุขด้วยการไปยืนอยู่ในที่ที่เป็นความทรงจำของคุณทั้งสองคน คุณจะเริ่มสัมผัสกับความรู้สึกดี ๆ เก่า ๆ และความทรงจำที่มีความสุขนั้นจะเข้ามาแทนที่ความเหงา คุณจะมีความสุขเมื่อได้นึกถึงสตอรี่ก่อนหน้าที่คุณจะแต่งงาน โดยเฉพาะการไปยังที่ที่คุณทั้งสองเจอกันครั้งแรก หรือที่ที่คุณทั้งสองได้ขอแต่งงาน มันเป็นการสร้างโมเมนท์เติมความรักขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แล้วความเหงาจะไม่มีค่าในความรู้สึกของคุณอีกต่อไป
4. ความเคารพซึ่งกันและกัน
เคารพในที่นี้หมายถึง ให้พื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน การแต่งงานและการเป็นคู่ชีวิตก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นเจ้าของชีวิตใคร บางครั้งการเยียวยาความเหนื่อยล้าก็อาจจะเป็นความรู้สึกที่อยากอยู่คนเดียวไม่กี่นาที หรือไม่กี่ชั่วโมง เพื่อได้ใช้เวลาตรงนั้นคิดแก้ปัญหาหรือการพักการรับรู้ชั่วขณะ การสร้าง energy แต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรให้พื้นที่ส่วนตัวซึ่งกันและกัน เพราะพื้นที่ส่วนตัวมันไม่ใช่พื้นที่แห่งความลับ แต่มันเป็นพื้นที่สำหรับเยียวยาตัวเองเพื่อคนรักต่างหาก สิ่งเหล่านี้เราเรียกมันว่า “ความเคารพในพื้นที่ของกันและกัน”
อย่าคิดว่าการแต่งงานเป็นโลกที่สวยหรูทั้งหมดของคุณ ปัญหามักจะมีเข้ามาเสมอเพราะมันเป็นการใช้ชีวิตของคนสองคน พื้นฐานที่แตกต่างกันย่อมสร้างความแตกต่างที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน มันไม่เพียงแต่ความเหงาที่คุณต้องทำลายมัน มันยังมีความรู้สึกอื่น ๆ ที่แย่ ๆ ที่จะซ่อนอยู่เสมอ แต่เมื่อไหร่ที่คุณทำความเข้าใจกับการรับมือทั้งหมดที่แบ่งปันได้อย่างชัดเจน นั่นแปลว่าชีวิตคู่ของคุณจะสามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยความรักและเข้าใจไปตลอดกาล howto101