เชื่อว่าหลังจากที่คุณเห็นหัวข้อแล้วคุณคงกำลังกรอกตาไปมาและกำลังหาคำตอบว่า Detox สื่อคืออะไร? แล้วทำไมสื่อจะต้องดีท็อกด้วยหรือ? เรามีคำตอบให้คุณทั้งหมด แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าทุกวันนี้การใช้ชีวิตของคุณเกินกว่าครึ่งหนึ่งในความสนใจของคุณทุ่มเทให้กับสื่อSocial Media ดังนั้นหลาย ๆ คนมีการใช้ชีวิตตาม Social ที่มากจนเกินไปจนทำให้พวกเขาเหล่านี้ไม่สามารถดึงความเป็นตัวเองกลับออกมาได้เลย และในอีกของบางคนโซเชียลมีเดียก็กลายเป็นตัวทำลายเวลาชีวิตของพวกเขาแบบพังพินาศ เพราะ Social ไม่เพียงให้แต่ความบันเทิงแต่มีข้อมูลหรือเนื้อหาบางอย่างที่ทำร้ายความคิดและความสร้างสรรค์ของคนให้หมดไป มันอันตรายมากทีเดียว
และการ Detox สื่อที่เรากำลังจะอธิบายให้คุณได้ฟัง มันเปรียบเสมือนว่าร่างกายของคุณรับประทานอาหารที่เป็นพิษเข้าไปทำให้มีผลกระทบทำให้ร่างกายอ่อนแอ โซเชียลมีเดียก็เป็นเหมือนอาหารพิษที่เมื่อคืนเศษมันเข้าไปในทุก ๆวันมันจะทำให้ mind set ของคุณถูกเปลี่ยนไป คุณอาจจะมีแนวคิดในเชิงลบมากกว่าเชิงบวก ความรู้สึกอิจฉาริษยา ความรู้สึกเศร้าใจจาก Social เรานี้จะเป็นตัวบั่นทอนทำให้ส่วนความคิดของคุณเสื่อมถอยไปในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์
วิธีหยุดพักเพื่อทำการล้างพิษจากการเสพโซเชียล
การเสพการเรียนรู้เป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งคุณอาจจะหลงลืมในการคัดเลือกในสิ่งที่คุณกำลังเรียนรู้เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ในหมวดของวิชาการ หรือความบันเทิงก็ตามแต่ ทุกการเรียนรู้หรือทุกอย่างบนโซเชียลมักมีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับว่าคุณเสพสิ่งไหนเข้าไป
การติดตามบล็อกหรือใครก็ตามที่คุณคิดว่าเขาเป็นในรูปแบบที่เหมาะกับการดำเนินชีวิตของคุณ มันเป็นสิ่งที่ดีที่คุณอาจจะได้รับไอเดียดี ๆในการใช้ชีวิตจากพวกเขาเหล่านี้ แต่คุณก็ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องตามพวกเขาไปทั้งหมด หรือแม้กระทั่งการอ่านที่คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านไปเสียทุกเรื่อง เพราะบางเรื่องการทำความเข้าใจมันอาจจะสร้างความเข้าใจผิดและจะทำให้คุณมีความคิดที่ผิด ๆ นั่นคือความคิดเป็นพิษที่เราต้องจัดการดีท็อกสมัน
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ต้องเคร่งเครียดมากเกินไป ดังนั้นเราจึงใช้เวลาสั้น ๆ เพียง 7 วันในการช่วยให้คุณจัดการล้างพิษจากโซเชียลเหล่านี้ ด้วยวิธีที่ถูกต้องให้คุณลองทำตามแล้วมาดูผลลัพธ์กัน
ขั้นตอนก่อนเริ่ม
1. เช็คแหล่งที่มาของข้อมูล
ช่องทางการรับข้อมูลอาจจะมีหลายช่องทาง เช่น Instagram Twitter Facebook YouTube หรือ
พอดแคสต์ และอาจรวมไปถึงการได้รับข้อมูลทางอีเมล ซึ่งสื่อต่าง ๆ เหล่านี้จะมีการส่งผลลัพธ์ให้กับคุณที่ค่อนข้างแตกต่างกัน และสื่อเหล่านี้ก็มีระดับการให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันด้วย เมื่อคุณเขียนพวกมันทั้งหมดแล้วคุณก็สามารถที่จะเริ่มตระหนักได้ว่าสื่อโซเชียลไหนที่คุณต้องให้ความสัมพันธ์กับมันน้อยที่สุด
2. จัดการการรบกวน
การจัดการการรบกวนในที่นี้เรากำลังพูดถึงสื่อทั้งหมดจากข้อแรก คุณสามารถพิจารณามันได้จากความรู้สึกของคุณ เมื่อไหร่ที่คุณกำลังอ่านหรือเรียนรู้จากสื่อใดส่วนหนึ่งและมันทำให้คุณเกิดความคิดในเชิงลบมากกว่าความคิดเชิงบวก สื่อนั้นทิ้งไปเสียเพราะมันกำลังทำลายชีวิตของคุณและการเริ่มต้นชีวิตของคุณในแต่ละวัน เพื่อนหรือผู้ติดตามที่ไม่มีความจำเป็นของคุณ คุณจำเป็นต้องตัดพวกเขาออกไปอย่าให้พวกเขาต้องรับรู้ข้อมูลที่เป็นส่วนตัวของคุณหรือรับข้อมูลของพวกเขาโดยไม่จำเป็น
3. การจัดการข้อมูล
การจัดการข้อมูลในที่นี้เราหมายถึง เมื่อไหร่ที่คุณค้นพบว่าแหล่งข้อมูลที่คุณกำลังเรียนรู้อยู่นั้นมีความน่าสนใจให้คุณปักหมุดหรือจัดเก็บมันเพื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง แต่หากข้อมูลไหนที่กำลังให้คุณในแง่ของทางลบให้คุณรีบออกจากมันอย่างเช่น การมีเพื่อนบน Facebook หรือมีผู้ติดตามใน instagram หากคุณเล็งเห็นแล้วว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับคุณเพียงแต่เข้ามาดูความเคลื่อนไหวของคุณและไม่ได้ช่วยทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นให้คุณจัดการตัดพวกนี้ทิ้งออกจากโลกของคุณเสีย
เข้าสู่ขั้นตอนการล้างพิษใน 7 วัน
Day 1 ยกเลิกการติดตามคนที่ไม่ได้ให้ประโยชน์กับคุณ หรือเว็บไซต์ที่ไม่ได้เป็นแหล่งแหล่งความรู้ที่ถูกต้อง เราจะเลือกใช้ในขั้นตอนที่ 2 จากด้านบน เมื่อการติดตามนั้นไร้ประโยชน์ และคนที่คุณติดตามก็ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับคุณ จงตัดมันออกไปเสีย
Day 2 การวางระบบการเช็คโทรศัพท์มือถือของคุณในตอนเช้าของทุกวัน ให้คุณกำหนดการเริ่มเปิดโซเชียลของคุณหลังจาก 9:00 น เป็นต้นไป และคุณควรกำหนดเวลาที่คุณจะหยิบมันขึ้นมาดู อย่างในตอนเช้าคุณอาจจะฟังพอดแคสต์ดีๆ เพื่อให้คุณได้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการทํางาน เราไม่แนะนำให้ตอนเช้ากับการเปิดเช็ค Facebook หรือ Instagram
Day 3 การทุ่มเทให้กับมื้ออาหารอย่างจริงจัง ช่วงเช้าคุณได้รับฟังพอดแคสต์ดีๆไปแล้ว แล้วเมื่อถึงมือกลางวันของคุณให้คุณทุ่มเทกับมื้อกลางวันของคุณโดยปราศจากการใช้สายตาในการจ้องมองสื่อโซเชียลใดๆ ให้คุณรับประทานอาหารของคุณให้อิ่ม และรอจนกว่าคุณจะมอบประโยชน์จากอาหารให้กับร่างกายของคุณให้เรียบร้อย แล้วค่อยกลับสู่การเข้าสู่โซเชียลของคุณ
Day 4 หยุดการเช็คอีเมลหลังอาหารเย็น และให้คุณใช้การออกกำลังกายหรือการอ่านหนังสือดีๆสักเล่มแทน เพราะเวลาเย็นเป็นเวลาที่สมองของคุณต้องพักผ่อนดังนั้นคุณควรจะป้อนสื่อที่สามารถทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าความตึงเครียด
Day 5 คุณต้องจำกัดตัวเองจากการอ่านบล็อก หรือคลิปวิดีโอ YouTube จำกัดการเข้าถึงในแต่ละวันให้น้อยที่สุด เช่น คุณอาจจะเข้าชมบล็อคแค่ 2-3 ครั้งต่อวันและการชมคลิปวีดีโอ YouTube เพียงหนึ่งครั้งต่อวัน หากคุณสามารถจำกัดตัวเองตรงนี้ได้คุณจะสามารถปรับสมดุลชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
Day 6 สร้างความยุ่งยากเพื่อการเข้าถึงที่ยากขึ้น แต่มันจะทำให้คุณมีสมาธิและมีพื้นที่ว่างในสมองที่คิดในเรื่องของการสร้างสรรค์มากขึ้น นั่นก็คือการใช้อุปกรณ์สื่อสารเพียงชิ้นเดียว ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องใช้งานบนคอมพิวเตอร์คุณไม่ควรเปิดสื่ออื่นๆบนโทรศัพท์มือถือ การเข้าถึงที่ไม่ได้ง่ายบนจอคอมพิวเตอร์ มันสามารถลดความอยากรู้ลดความอยากดูลงเพราะความซับซ้อนและคุณไม่มีเวลามากพอ และเชื่อว่าคุณจะไม่ชอบให้สิ่งจุกจิกเหล่านี้ความยากเหล่านี้เข้ามากวนใจในขณะที่คุณจะต้องทำงาน
Day 7 คุณอาจจะให้เวลากับการติดตามสื่อที่คุณชอบใน 1 วันต่อสัปดาห์วันนั้นอาจจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณ ให้คุณเลือกบล็อกหรือเรื่องราวที่น่าสนใจที่คุณจะติดตามมันได้ทั้งวันอย่าง บล็อกการฝึกทำอาหาร การฝึกปลูกต้นไม้ หรือแม้กระทั่งการฝึกเป็นนักเขียน สื่อเหล่านี้ค่อนข้างมีประโยชน์กับตัวคุณคุณสามารถทุ่มเทเวลาวันหยุดของคุณทั้งวันกับมันได้ วันหยุดที่คุณจะต้องหยุดพักคุณควรจะพักกับสิ่งที่จะทำให้คนเกิดความสร้างสรรค์ แล้วทำให้คนมีความสุขได้มากที่สุด เพราะคุณจะมีเพียงแค่ 1 วันในสัปดาห์ อย่าให้โซเชียลเป็นพิษ มาทำให้คุณเสียเวลาพลังงานชีวิตที่มากเกินไป
แก่นแท้ของโลกโซเชียล จริงๆแล้วมันเป็นการให้ข้อมูลที่ดีและทำให้คุณได้เปิดโลกที่กว้างขึ้น แต่คุณก็มีความจำเป็นที่คุณจะต้องล้างพิษโซเชียลที่สร้างพิษให้กับคุณที่ไม่เพียงแต่ 7 วัน คุณอาจจะต้องทำมันในทันทีเลยด้วยซ้ำหากคุณรู้สึกว่ามันทำให้คุณกลายเป็นคนที่มีความคิดเชิงลบ แต่เราหวังว่า 7 วันนี้จะเป็นผลลัพธ์ที่จะทำให้คุณเกิดการเปลี่ยนแปลงและนำไปสู่การใช้ Social ที่มีคุณภาพมากขึ้น howto101
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เก้าเกออนไลน์ ได้เงินจริง