โรคความดันโลหิตสูงพบว่ามีคนเป็นสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องมาจากการใช้ชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป พลังการกดดันจากสภาพแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ ครอบครัว ทุกอย่างถูกเชื่อมโยงกันไปหมด เพราะโรคนี้เกิดจากภาวะเครียดสะสม รับประทานอาหารที่มีไขมันมากเกินความจำเป็นและไร้ประโยชน์ รวมไปถึงการไม่ออกกำลังกาย
แต่ยังไม่สายที่คุณจะได้หันมาสนใจเรื่องนี้อีกครั้ง มีหลายเรามีหลายวิธีที่จะช่วยทำให้คุณได้พบกับโซรูชั่นการลดอาการหรือการเกิดขึ้นของภาวะความดันโลหิต ที่จะเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจและอันตรายต่อหลอดเลือดตามมา เรามีวิธีการป้องกันด้วยวิธีทางธรรมชาติ ตั้งแต่เรื่องของการลดระดับความเครียดลง การใช้อาหารช่วย และอีกหลายวิธีที่น่าสนใจ ลองตามอ่านกันดู
การรับประทานอาหารแบบ DASH (Dietary Approaches to Stop Hypertension)
1. ลดการบริโภคโซเดียมของคุณ ปัจจุบันนี้ อาหารหลายประเภทใช้ส่วนผสมที่มีโซเดียมในปริมาณที่ดูเหมือนไม่มาก แต่หากรับประทานบ่อยก็จะทำให้ร่างกายเกิดการสะสมของโซเดียว กล่าวคือ มีความเป็นไปได้ที่จะรับโซเดียวได้มากถึงวันละ 3,500 mg. อาหาร DASH จะช่วยให้คุณสามารถคุมการรับโซเดียมในปริมาณที่พอดี โดยคนปรกติที่จะรับโซเดียมและไม่เป็นอันตรายได้จะต้องไม่เกิน 2,300 mg. ต่อวัน
ในเบื้องต้น การลดโซเดียมแบบง่าย ๆ คือการลดการใช้เกลือในการปรุงอาหารโดยตรงลงในเนื้อสัตว์ มันคือการหลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมรสเค็ม โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป เพราะอาหารเหล่านี้ถูกผสมด้วยเกลือเป็นจำนวนมากหาคุณสามารถหลีกเลี่ยงได้ควรหลีกเลี่ยง
2. กินธัญพืช อาหารที่จัดอยู่จำพวกธัญพืช ได้แก่ อาหารที่ได้จากพืชและใช้เมล็ดในการปรุงอาหาร ข้าว ข้าวฟ่าง ลูกเดือย ข้าวโพด ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์ ข้าวทริทิเคลี และข้าวสาลี ยังรวมไปถึงต่าง ๆ เช่น ถั่วหัวช้าง ถั่วปากอ้า ถั่วลันเตา ถั่วเขียว ถั่วลิสง และถั่วเหลือง ธัญพืชพูดง่าย ๆ ก็คือพืชที่ไม่ขัดสีนั่นเอง
คุณจะสามารถเห็นได้จากขนมปังโฮลวีตที่สามารถหาได้ง่าย และมีประโยชน์ที่สามารถใช้ทานเป็นอาหารหลักได้ และได้คุณค่าทางอาหารที่ดีมาก เพราะโฮลวีตมีสารอาหารและแหล่งรวมไฟเบอร์ที่เยี่ยมยอด หากคุณต้องากรควบคุความดันโลหิตอย่างได้ผล คุณควรรับประทานวันละ 8 มื้อ นั่นคือสารมารถรับประทานเป็นอาหารว่างจากมื้อหลักได้
3. เพิ่มผักและผลไม้ในมื้ออาหาร ผักและผลไม้เป็นวิตามินรวมที่มีคุณค่าอย่างมหาศาลสำหรับสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีภาวะความดันโลหิตสูง เพราะผักและผลไม้เป็นแหล่งโพแทสเซียมและแมกนีเซียมที่ช่วยเรืองลดความดันได้ดี
ในแต่ละมื้ออาหารคุณควรให้ผักหรือผลไม้อยู่ในมื้ออาหารหารของคุณในอัตราส่วน ½ ถ้วย ต่อหนึ่งมื้ออาหาร และควรบริโภคให้ได้ 3 มือหลักในแต่ละวัน และสามารถนำมาเป็นอาหารว่างแทนขนมรสหวานที่ไม่มีคุณค่าอาหารมากเท่าไหร่นัก ผลไม้ที่ควรจะมีในมื้ออาหารได้บ่อยและไม่น่าเบื่อ เช่น แอปเปิ้ล กล้วย ผักอย่างเช่น แตงกวา แครอท มะเขือเทศและพริกหยวก
4.นมไขมันต่ำ แน่นอนว่านมเป็นแหล่งแคลเซียมชั้นเยี่ยม และยังมีวิตามินที่ได้มาจากธรรมชาติที่มากับนมอย่างวิตามิน D และการนำมาใช้เป็นอาหารรับประทานก็อาจะต้องควรระวังสักเล็กน้อย เพราะอาหารที่ทำจากนมอย่าง ชีส จะมีส่วนผสมของเกลือที่อาจจะสูงมากเกินไป หรือโยเกิร์ต และนมสดที่คุณรับประทานให้เลือกแบบที่เป็นชนิดไขมันต่ำ จะเป็นการควบคุมปริมาณไขมันได้ในระดับหนึ่ง
5. กินเนื้อไร้มัน เนื้อสัตว์เป็นแหล่งโปตีนที่ร่างกายต้องการ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นประโยชน์ในทุกประเภทของเนื้อสัตว์ ยกตัวอย่างสัตว์ปีกอย่าง ไก่ มีประโยชน์ที่ไขมันต่ำแต่ก็ยังมีกรดยูริคที่สูงทำให้เกิดโรคหากรับในปริมาณที่มากเกินไป ส่วนปลาจัดว่าเป็นแหล่งที่รวมไว้ของโปรตีน วิตามิน ธาตุเหล็ก และสังกะสีที่ร่ากายต้องการแต่ในปลาบางชนิดก็จะมีไขมันและปริมาณคอเลสเตอรอลที่สูง อาจทำให้เกิดกรอุดตันของหลอดเลือดแดง
การรับประทานเนื้อสัตว์เหล่านี้ แน่นอนควรหลีกเลี่ยงส่วนไขมัน ต่อให้มันเป็นตัวนำรสชาติที่ดีแค่ไหน และที่สำคัญการปรุงอาหารด้วยการนึ่ง ย่าง หรือการปรุงแบบไม่ใช้น้ำมัน จะช่วยทำให้คุณไม่เพิ่มสารที่จะก่อนให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ดีกว่า แนะนำเนื้อสัตว์ประเภทปลาที่มีประโยชน์อย่าง ปลาแซลมอน ปลทูน่า หรือปลาเฮอริ่งที่เป็นแหล่งรวมกรดไขมันโอเมก้า 3 และยังเป็นเนื้อสัตว์ที่มีโปรีนสูงและคอเรสเตอรอลต่ำ ทำให้รางกายได้รับประโยชน์แบบเติมเต็ม
6. ควบคุมการบริโภคไขมันของคุณ ไขมันมักสร้างปัญหามากกว่าการให้ประโยชน์หากคุณรับประทานมากเกินความจำเป็น อันตรายหลังจากปริมาณไขมันเกินความจำเป็นจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ หากคุณรักที่จะดูแลหัวใจของคุณ คุณจำเป็นต้องจำกัดปริมาณการรับไขมัน
ใช้วิธีการปรุงอาหารเพื่อควบคุมไขมัน เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด เช่น การหยุดทาเนยบนขนมปัง คุณจะไม่สามารถจำกัดปริมาณได้ ให้คุณปริมาณการใช้น้ำมันในการปรุงอาหารด้วยการใช้นมพร่องมันเนยแทนนมสดทั้งหมด รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงการปรุงอาหารหรือรับประทานอาหารที่ทำจาก น้ำมันหมู เนยขาวชนิดแข็ง ปาล์มและน้ำมันมะพร้าว คุณอาจจะรับประทานได้แต่ในปริมาณที่น้อยเท่าที่กำหนด
7. ถั่ว เมล็ดพืช และพืชตระกูลถั่ว ไขมันที่ได้จากพืชเหล่านี้มีปริมาณที่ค่อนข้างสูง และยังมีในส่วนของเหล่าแร่ธาตุอื่น ๆ อย่าง แมกนีเซียม โพแทสเซียม ไฟเบอร์และโปรตีน อาหารเหล่านี้สามารถรับประทานได้ 5 มื้อต่อสัปดาห์หมายถึงคุณควรรับประทานร่วมกับสารอาหารอื่นอย่างเนื้อสัตว์ และผักผลไม้เพื่อให้ได้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนกำลังดี
8.จำกัดปริมาณการรับน้ำตาล น้ำตาลจะมาในรูปของอาหารที่แปรรูป ซึ่งน้ำตาลจะเป็นตัวทำลายร่างกายและมีผลโดยตรงกับปัญหาเรื่องความดันโลหิต แต่ร่างกายก็ยังมีความต้องการน้ำตาลแต่ในปริมาณปรกติที่สร้างประโยชน์คุณอาจะเลือกใช้น้ำตาลแปรรูปที่ไม่ทำร้ายร่างกายอย่างเช่น Splenda, NutraSweet และ Equal แต่ก็ให้ใช้สำหรับความจำเป็นเท่านั้น เพราะน้ำตาลแปรรูปเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดปัญหาได้ในอนาคต
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง
1. การออกกำลังกาย เป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุดสำหรับการควบคุมระดับความดัน และสามารถลดความดันโลหิตได้อย่างเห็นผล เพราะการออกกำลังการเป็นการช่วยเรื่องการควบคุมระดับอารมณ์จากการผ่อนคลายของร่างกาย คุณควรออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 2 ชั่วโมงในเวลาโดยรวม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีคือความดันโลหิตลดลง
การออกกำลังกายที่ได้ผลและไม่หนักจนเกินไปได้แก่ การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และเล่นกีฬารวมไปถึงการเต้น ควรออกกำลังกายเพิ่มเติมในการสร้างกล้ามเนื้อและรักษาความหนาแน่นของมวลกระดูกด้วยการออกำลังกายแบบยกน้ำหนักเบา ๆ
2. งดการดื่มแอลกอฮอลล์ และการสุบบุหรี่ สองสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แอลกอฮอลล์ให้ประโยชน์ต่อร่างกายในบางเรื่อง เช่น เบียร์แก้เรื่องความดันต่ำได้ดี ไวน์ก็เช่นกัน แต่ต้องบอกก่อนว่าต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้นที่จะเป็นประโยชน์
ปริมาณแอลกอฮอล์ที่สามารถดื่มให้เป็นประโยชน์
เบียร์ที่มีแอลกอฮอล์ 5% = 360 มิลลิลิตร
ไวน์ที่มีแอลกอฮอล์ 12% = 150 มิลลิลิตร
สุราที่มีแอลกอฮอล์ 40% = 45 มิลลิลิตร
สำหรับนักดื่มที่เป็นผู้ชายสามารถดื่มได้เป็นสองเท่าจากปริมาณที่กำหนด แต่สำหรับผู้หญิงปริมาณที่เหมาะสมควรดื่มได้ตามปริมาณนี้เท่านั้น
สำหรับการสูบบุหรี่แนะนำให้หยุดเพราะบุหรี่ไม่มีสารชนิดใดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเลย มีแต่จะส่งผลให้หลอดเลือดแดงแข็งตัวและตีบลง ซึ่งจะทำให้ความดันโลหิตของคุณค่อย ๆ สูงขึ้น
การปฏิบัติตัวเหล่านี้จัดว่าเป็นโซรูชั่นขั้นพื้นฐานที่ทำตามไม่ยาก และเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็กำลังเริ่มพยายามทำอยู่ หากคุณไม่ต้องการให้ความดันโลหิตมาเป็นตัวสร้างปัญหาให้กับชีวิตคุณในอนาคต คุณควรทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคร่งครัด เพื่อชีวิตที่มีคุณภาพและยั่งยืนแข็งแรงจากภาวะความดันโลหิต howto101