หลาย ๆ คนยังคงติดอยู่กับความกลัวที่จะก้าวออกมาจากชีวิตเดิม ๆ เพียงเพราะกลัวการเปลี่ยนแปลงจะลดคุณภาพชีวิตลงใช่ไหม? คุณกำลังรู้สึกเหมือนกับหายใจไม่ออกและถูกกดดันจากสิ่งที่มองไม่เห็น นั่นเป็นเพราะคุณกำลังพยายามที่จะมองหาทางออกที่เร็วเกินไป บวกกับการที่คุณยังยอมรับความจริงของโลกของคุณทั้งหมดไม่ได้
มันเกิดจากความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำอีกที่ผ่านมาของคุณจนความมั่นใจในตัวเองหายไป และความรู้สึกเหล่านี้ติดตัวคุณแบบเหนียวแน่นไม่ไปไหนเลย ให้คุณลองมาดูสาเหตุของการเกิดขึ้นของความรู้สึกเหล่านี้พร้อมกันวิธีการออกจากเซฟโซนชีวิตของคุณแบบก้าวไปข้างหน้าจากวิธีการเหล่านี้
สาเหตุของการติดอยู่ในเซฟโซน
1. เซฟโซนทำให้คุณนิ่งมากเกินไป
คุณต้องการเซฟทุกอย่างในชีวิตของคุณจนทำให้คุณไม่ขยับที่จะทำอะไรแบบเชิงรุกเลย เพราะการถูกสั่งสอนในตอนเด็กที่บางครอบครัวรวมถึงครอบครัวของคุณสอนให้รู้จักเชื่อฟังคนอื่น ยอม มากกว่าการพูดคุย เพื่อให้การเข้าสังคมกลมกลืนและง่ายขึ้น เป็นสิ่งที่บอกไม่ได้ชัดเจนว่าถูกหรือผิดเพราะมันไม่สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ แต่การที่ใช้วิธีเชิงรุกที่จะมีชีวิตเหมือนคนอื่นไม่ว่าจะเป็น การเลือกมหาลัย การแต่งงาน การลงทุน ทั้งหมดที่ไม่ได้มาจากความคิดตัวเอง จัดเป็นเชิงรุกที่ไม่สร้างสรรค์เหมือนกัน
2. ใช้ชีวิตแก่แดดมากไป
เมื่อโลกหมุนรอบตัวเร็วขึ้น มนุษย์เราก็ไม่สามารถเป็นสิ่งมีชีวิตที่คงที่ได้อีกต่อไป จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงปรับตัวให้รับกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกให้ได้โดยเฉพาะเทคโนโลยีและนิสัยใจคอของคนที่เปลี่ยนไปเร็ว จากการเปลี่ยนอะไรที่เร็วไปหมดทำให้การเรียนรู้มันเร็วมากจนทำให้การเรียนรู้บางอย่างขาดสติ และด้วยสภาพแวดล้อมที่คุณเจอ จนทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของคุณเป็นไปในทางที่ดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก
คุณเรียนรู้ที่จะต้องเข้มแข็งกว่าคนอื่นหลายเท่า และจำเป็นต้องวิ่งไปให้ไกลก่อนเพราะความจำเป็นบางอย่าง ทำให้ชีวิตคุณไม่ได้อยู่แบบปรกติตามธรรมชาติช่วงวัย แต่มันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
3. คุณต้องทำหน้าที่มากไป
แน่นอนความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคุณ แต่อาจมีจุดหนึ่งในชีวิตของเราเมื่อเรารับผิดชอบมากกว่าที่คุณจะรับมือได้มันทำให้คุณรู้สึกว่าติดอยู่ตรงนั้นไม่มีความคิดที่จะไปทางไหน ทำให้คุณรู้สึกไร้จุดหมาย และคุณก็จะพยายามหนีจากบางสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณ อดีตของคุณ หรืออารมณ์บางอย่างที่หลอกหลอนเรา เช่น ความเศร้า ความว่างเปล่า หรือความโกรธ
วิธีหลุดจากความคิดติดบ่วงเหล่านี้
คุณกำลังอาจพยายามหยุดความรู้สึกติดอยู่ แต่มันก็ยังเหมือนระเบิดที่รอวันแตกอยู่ภายในใจ จนทำให้คุณวนเวียนอยู่ในความรู้สึกติดบ่วงนั้นอีก คุณจำเป็นที่จะต้องติดตามมันอย่างไม่ให้พลาดโดยเด็ดขาด เพราะคุณจะต้องตกเป็นเหยื่อของบ่วงเหล่านี้ ซึ่งจะมีความคิดเหล่านี้ตามมา การกล่าวโทษ การให้เหตุผล และการหาข้อแก้ตัวจนทำให้คุณไม่สามารถจะรับผิดชอบความรู้สึกของตัวเองได้ คุณจำเป็นต้องใช้วิธีเหล่านี้
การแสดงความรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเอง
เป็นเรื่องปกติที่คุณจะรู้สึก เศร้ากับสถานการณ์ของตัวเอง เพื่อให้รู้สึกดีขึ้น คุณต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของคุณ ซึ่งหมายถึงการตัดสินใจสร้างการเปลี่ยนแปลง ให้คุณลองเริ่มด้วยการตระหนักว่าความสุขคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณหยุดที่จะเป็นเหยื่อของบ่วงความรู้สึกเหล่านี้และขึ้นเรียกร้องความเป็นเจ้าของชีวิตของคุณด้วยคุณเอง อย่าให้คำคิดแย่ ๆ เข้ามาทำให้คุณติดซ้ำแล้วซ้ำอีก คุณไม่ใช่เหยื่อคุณจะเป็นผู้เอาชนะทุกอย่าง
เปลี่ยนแปลงตัวเองในทุก ๆ วัน
การเริ่มต้นเดินเข้าหาชีวิตเดิม ๆ ของคุณเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง คุณจะต้องค่อย ๆ หากิจวัตรใหม่ ๆ หรือนิสัยใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งการเริ่มต้นดูแลตัวเอง ไม่เว้นแม้กระทั่งการทดลองสิ่งที่น่าสนใจและเป็นการเปิดโลกใหม่
ทำเรื่องไร้สาระ
การทำอะไรที่เป็นเรื่องที่ไม่มีสาระแต่มันสามารถสร้างเสียงหัวเราะหรือแม้กระทั่งพาคุณไปสู่ความสบายใจ ทำไปเถอะ! เราแนะนำให้คุณทำมัน ชีวิตที่ต้องการมองหาแต่สาระมากจนเกินไปมันก็อาจจะทำให้คุณติดอยู่แต่ความมืด ให้ความไร้สาระทำให้คุณได้มีเวลาผ่อนคลายความคิดของคุณเผื่อมันจะพาให้คุณพบทางออกที่ดีกว่า เพราะธรรมชาติของคนเราเมื่อจิตใจมีความรู้สึกผ่อนคลาย ความคิดดี ๆ จะเข้ามาโดยอัตโนมัติ
ละทิ้งหน้าตาทางสังคม
การเป็นคนที่มีบรรทัดฐานทางสังคมที่มากเกินไปจนทำให้ความเป็นตัวเองหายไป มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเก็บมันเอาไว้อีกต่อไป หน้าตาทางสังคมแทบไม่มีความจำเป็นในชีวิตคุณเลยหากคุณมีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ดีแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเอาภาพของคุณไปสต๊าฟเอาไว้เพื่อให้ทุกคนยอมรับ การอยู่ในสังคมที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดแล้ว
ฝึกพูดคำว่า “ไม่ ขอบคุณ”
ไม่จัดว่าเป็นการเสียมารยาทสำหรับการตอบปฏิเสธในสิ่งที่ทำให้คุณไม่สะดวกใจ หากคุณกำลังถูกรบกวนจิตใจจากคนบางคนที่ต้องการให้คุณต้องทำตามพวกเขา คุณมีสิทธิที่จะพิจารณาหากไม่ใช่สิ่งที่สร้างประโยชน์ให้ตัวคุณหรือการผลลัพธ์ที่ดีจากการเสียสละ คุณสามารถพูดคำว่า “ไม่ ขอบคุณ” ได้ง่าย ๆ แบบไม่เสียมารยาท
ทั้งหมดนี้เป็น วิธีออกจากเซฟโซนที่ไม่เซฟชีวิตแบบง่าย ๆ และเป็นชีวิตจริงสำหรับทุกคน วิธีเหล่านี้จะให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อชีวิตของคุณหากคุณทำได้ทุกข้อหรือเกินกว่าครึ่ง เพราะเป็นการปรับแนวความคิดและการสร้างความกล้าหาญในการใช้ชีวิตเพื่อให้เซฟโซนของคุณยังคงเป็นที่ที่ปลอดภัย howto101