การใช้ชีวิตของสังคมสมัยนี้หรือใน Generation ที่จัดว่าอยู่ในกลุ่มของวัยรุ่น หรือเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน หรือเป็นวัยเริ่มทำงาน กลุ่มคนวัยนี้จะเป็นกลุ่มคนที่มีความทันสมัยในทุกๆเรื่องไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน อาหารการกิน แฟชั่นเสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ช่วยอื่นๆ
ด้วยความทันสมัยจึงทำให้เกิดปัญหาอยู่ 1 ปัญหาที่พบได้บ่อยนั่นก็คือการขาดสภาพคล่องเนื่องจากว่าบุคคลเหล่านี้จะมีช่องทางการสร้างรายได้อาจจะมีทางเดียวคือเงินเดือน คุณจะต้องทำงาน 30 วันเพื่อรอรับเงินเดือน ดังนั้น หากคุณไม่ต้องการที่จะพบปัญหาในเรื่องของการขาดสภาพคล่องที่เนื่องมาจากการใช้ชีวิตที่ทันสมัย ลองมาอ่านบทความด้านล่างนี้เพื่อคุณจะได้รู้ว่าในขณะที่คุณกำลังเข้าสู่ปัญหาขาดสภาพคล่อง คุณควรจะรับมือมันอย่างไร ด้วยวิธีการหยุดซื้อสิ่งของบางอย่างที่มันจะยิ่งทำให้คุณค่ะสภาพคล่องมากขึ้นกว่าเดิม
1. Starbucks Coffee
มันอาจจะเป็นความยากสักนิดหนึ่งกับการหยุดซื้อกาแฟจากร้านแบรนด์ดังอย่างสตาร์บัค ในกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงวัยที่เป็นเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ Vanguard เป็นให้เข้ามาเป็นส่วนของการสร้างชีวิตที่ดูทันสมัยและแน่นอนว่าตัวแบรนด์เองก็ตอบโจทย์นักดื่มเหล้านี้ได้ดี แต่จะว่าไปร้านกาแฟที่สามารถยกระดับให้ดูเป็นคนทันสมัยได้ก็อาจจะไม่ใช่เพียงแบรนด์ Starbucks เท่านั้น ยังมีร้านแบรนด์ดังอื่น ๆ ที่ยังดึงดูดกลุ่มคนเหล่านี้เขามาซื้อกาแฟของพวกเขา บางคนแยกรสชาติกาแฟไม่ออกด้วยซ้ำแต่เพียงแต่ขอให้สิ่งที่อยู่บนมือพวกเขามีโลโก้เหล่านี้
ความคิดนี้เป็นความคิดที่ผิดอย่างร้ายแรง การที่คุณจะดื่มกาแฟสักแก้วนึงหากมันเป็นความจำเป็นในชีวิตคุณในตอนเช้าเพื่อต้องการความสดชื่น คุณควรจะลองพิจารณาราคากาแฟที่มันจะไม่ทำให้การจ่ายค่ากาแฟของคุณเป็นค่าใช้จ่ายหลักในก้อนเงินเดือนของคุณ ถ้าราคาของกาแฟทำให้คุณต้องทำให้คุณพบกับปัญหาสภาพคล่อง ลองเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างอื่นในราคาที่ถูกลงอาจจะดีกว่า
2. ความสวยความงามของมือและเท้า
สำหรับข้อนี้เราอาจจะระบุได้โดยตรงว่ามันน่าจะเกิดขึ้นกับกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิง เพราะผู้หญิงหลายๆคนหลงใหลการทำเล็บการสร้างสีสันบนนิ้วมือและนิ้วเท้า เพราะโลกใบนี้ความสวยของผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบเท่านั้นที่จะทำให้เกิดการดึงดูดจากเพศตรงข้ามได้อย่างดี ดังนั้นมันจึงเป็นสาเหตุของความสวยที่ต้องมาคู่กับผู้หญิงเสมอ
แต่คุณรู้ไหมว่าการทำสปามือและเท้าที่คุณจะต้องไปทำในสถานที่เฉพาะ แน่นอนว่าราคาก็คงจะไม่เบา หากคุณทำ 2-3 เดือนครั้งในการบำรุงมือและเท้าด้วยอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ก็อาจจะยังสมเหตุสมผล แต่สำหรับกรณ๊เปลี่ยนสีของเล็บหรือนุ่มอยู่ตลอดเวลาด้วยการเข้าร้านสปาในทุก ๆ สัปดาห์ ค่าใช้จ่ายก้อนนี้มันจะถูกอยู่ในตารางค่าใช้จ่ายของคุณโดยไม่จำเป็น คุณลองทำง่าย ๆ ด้วยการหยุดเข้าสปาเป็นเวลา 1 เดือนแล้วคุณจะมีความรู้สึกว่าคุณได้รับการขึ้นเงินเดือนอย่างไม่น่าเชื่อ คุณสามารถสปามือและเท้าของคุณได้เองด้วยการลองหา How to จากหลายๆเว็บไซต์ เพื่อการดูแลมือและเท้าที่รักของคุณได้อย่างต่อเนื่องและเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
3. การเป็นสมาชิกที่ไม่ได้ใช้
เป็นเรื่องที่เสียไม่ได้กับการต้องสมัครสมาชิกของคลับเฮาส์ หรือกลุ่มการขายต่าง ๆ เพียงเพื่อต้องการซื้อของถูกในครั้งแรก ปัญหานี้จะพบบ่อยเนื่องจากความคิดที่ว่าหากสมัครวันนี้จะได้ลดค่าสินค้าเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ หรืออาจจะถูกนำเสนอในเรื่องของของแถมที่จะได้รับในเวลานั้น
หากคุณได้ลองมองและคิดดี ๆ คุณจะพบว่า ร้อยละ 50 ไม่มีการกลับไปซื้อสินค้าในแผนกนั้นซ้ำอีก เป็นการสมัครสมาชิกที่ไม่ได้รับผลกำไร ให้คุณลองพิจารณาถึงการใช้งานในกลุ่มสมาชิกนั้น ต่อให้คาสมัครราคาถูก แต่คุณก็ยังคงได้รับสินค้าราคาแพงอยู่ดี แถมด้วยสมาชิกที่จำเป็นต้องซื้อมันทิ้งไปเพียงแค่โปรโมชั่นน่าสนใจระยะสั้นเท่านั้นเอง
4. จ่ายในแบรนด์ที่แพงที่สุด
มีความคิดที่ว่า แบรนด์ที่แพงที่สุดจะดีที่สุด มันก็เป็นไปได้แต่คุณอาจจะต้องเปรียบเทียบสักหน่อยกับเรื่องนี้ แบรนด์ที่แพงและดีจะมีอยู่ในกลุ่มสกินแคร์ รองเท้า กระเป๋า กลุ่มเหล่านี้ยอมรับว่าแพงและดีจริง และคุ้มกับการลงทุน แต่ถ้าสิ่งเหล่านี้มันอาจจะเป็นสิ่งของที่ฟุ่มเฟือย คุณอาจมองหาแบรนด์ที่เทียบเท่าแต่ราคาย่อมเยาว์กว่าก็มีให้เห็นอีกมากมาย คุณสามารถใช้แบรนด์ที่แพงได้แต่ต้องมีระยะเวลาการใช้งานได้คุ้มค่ามากพอที่จะซื้อใช้อีก
5. กินข้าวนอกบ้านเป็นกิจวัตร
มันอาจจะเป็นความสะดวกที่หลาย ๆ คนตามหาเพราะเวลาพักของคุณมีน้อย แต่การหาอาหารที่ดูสะอาดและน่าไว้ใจอาจจะต้องอยู่ในส่วนของห้างสรรพสินค้าหรือฮอลใหญ่ ๆ ดังนั้น ราคาอาหารจึงมีราคาสูงในแต่ละมื้อ คุณสามารถจัดตารางการกินอาหารนอกบ้านเดือนละ 1-2 ครั้ง และพยายามในการทำมื้ออาหารรับประทานเองง่าย ๆ ที่บ้าน คุณจะได้ทั้งการสร้างความสัมพันธ์ในขณะรับประทานอาหาร และยังได้ความประหยัดอีกด้วย
ทั้ง 5 วิธีที่ไม่ควรทำในขณะที่คุณขาดสภาพคล่องและต้องการเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ ให้คุณรีบเริ่มทำมันตั้งแต่คุณได้อ่านมันจบ เพราะการประหยัดหรือรู้จักเพียงพอได้เร็วเท่าไหร่ คุณจะรอดจากสภาวะนี้ได้เร็วเท่านั้น และหากคุณทำมันได้ คุณจะกลายเป็นนักวางแผนการใช้เงินที่ดีเลยหล่ะ howto101