การลดค่าของตัวเองหรือการดูถูกตัวเอง อาจเรียกอีกอย่างแบบง่าย ๆ ว่า การด้อยค่าตัวเอง เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดสำหรับชีวิตของมนุษย์คนหนึ่ง เพราะการที่มนุษย์คนนึงจะเดินหน้าต่อไปได้นั้นหมายความว่าชีวิตของพวกเขาจะต้องมีเป้าหมาย แต่การลดค่าของตัวเองด้วยความรู้สึกในตัวคุณเองมันเป็นเรื่องที่แย่มาก ๆ แต่ก็เชื่อว่าคนหลายๆคนอาจจะไม่รู้ตัวเองจริงๆว่ากำลังลดค่าตัวเองอยู่จากการกระทำหรือการแสดงออกบางอย่าง
เราอยากจะให้คุณได้อ่านบทความนี้ไปพร้อม ๆ กันเพราะเรากำลังหาวิธีการช่วยหยุดการลดค่าของตัวเอง รวมไปถึงวิธีการสังเกตอาการ อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของคุณที่มีให้กับตัวคุณ มันจะเป็นสัญญาณในการบอกว่าคุณกำลังดูถูกตัวเองอยู่หรือเปล่า มาดูสัญญาณเหล่านี้กัน
อาการที่เห็นได้ชัดของคนที่กำลังดูถูกตัวเอง
อาการที่เห็นชัด
- ไม่เชื่อความเห็นตัวเอง
- คิดถึงเรื่องในอดีตที่สมหวังตลอดเวลา
- คิดว่าทำไม่ได้ และผ่านมันไปไม่ได้
- ไม่เคยเข้าใจในความต้องการของตัวเอง
- ความวิตกกังวลและความสับสนในอารมณ์บ่อย
อาการที่ซ่อนอยู่
1. ทำงานแบบบ้าคลั่ง
เป็นการเข้าใจผิดมาตลอด สำหรับคนที่มองว่าตัวเองด้อยค่า จนทำให้ต้องทุ่มเททำงานแบบเอาเป็นเอาตาย เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงศักยภาพแบบปลอม ๆ ยังมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับความภาคภูมิใจทีได้มาต้องมาจากการได้รับความชื่นชม และเป็นคนที่โดดเด่นเท่านั้นที่จะทำให้เกิดการยอมรับ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การทำงานอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้เกิดผลจึงเป็นทางเลือกแรกสำหรับคนที่คิดว่าตัวเองด้อยค่า และงานที่หนักจะเป็นตัวเพิ่มมูลค่าให้กับคุณ มันเป็นความคิดที่ป่วยมาก
2. กังวลผลลัพธ์ที่น้อยไป
อย่างที่บอกไว้ว่า คนที่เห็นตัวเองไร้ค่ามักจะต้องการจำนวนงานที่มากขึ้นเพื่อพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง จนทำให้เป็นความกังวลใจปะปนไปกับความกังวลอื่น ๆ ทำให้คุณมองไม่เห็นว่ามันเป็นสาเหตุของเรื่องนี้ และมันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยหากเมื่อคุณเป็นผู้ใหญ่แล้วคุณรู้สึกตัวคุณเองไม่มีคุณค่า เป็นการเชื่อมโยงจากชีวิตในวัยเด็กที่คุณอาจจะมีการถูกกระทำบางอย่างแบบซ้ำ ๆ จนทำให้คุณกลายเป็นคนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าหรือไม่มีความหมายสำหรับคนรอบข้าง และมีสาเหตุมาจากสิ่งต่าง ๆในวัยเด็กเหล่านี้
สาเหตุของการรู้สึกไม่มีคุณค่า
- ถูกลงโทษบ่อยแบบไร้เหตุผล
- ถูกละเลย ไม่ได้รับความสำคัญ
- การถูกล่วงละเมิดอย่างต่อเนื่อง
- การถูกควบคุมด้วยกฏของครอบครัวที่เข้มงวด
- ถูกรังแก และถูกต่อต้าน
- การได้รับความเครียดและหมดหวังจากคนรอบข้าง
- ไม่เคยได้รับการยกย่อง การถูกมอบความอบอุ่น และความห่วงหา
- การอยู่ในครอบครัวหรือกลุ่มที่หรือครอบครัวที่มีอคติต่อคนรอบข้าง
ผลลัพธ์ที่น่ากลัวจากการด้อยค่าของตัวเอง
สับสนกับคนที่ดีจริง
แน่นอนว่าผลที่จะได้รับจากการด้อยค่าหรือเห็นตัวเองไร้ค่าสะสมมา ผลของมันก็คือการที่คุณจะรู้สึกเชื่อคนง่ายโดยเฉพาะเรื่องของความรักจากคนที่ต้องการเข้ามาสานสัมพันธ์ในรูปแบบหนึ่ง แต่เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่าคุณไร้ค่าสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติกับคุณคุณจะรู้สึกว่าพวกเขากำลังยกชูกุลขึ้น มันจะทำให้คุณทุ่มเททุกความรู้สึกแก่พวกเขาเหล่านั้นเพราะคุณไม่เคยได้รับมันมาก่อนหน้านี้
ความสัมพันธ์ที่พังลง
และอีกในแง่มุมหนึ่งการที่คุณรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าหรือด้อยค่านั้นมันจะทำให้คุณปล่อยมือจากคนดี ๆรอบตัวคุณหรือคนดี ๆ ที่อยู่ดูแลคุณ เมื่อความด้อยค่ากลายเป็นความรู้สึกใหญ่ในตัวคุณมันจะทำให้คุณต่อต้านจนทำให้คุณต้องสูญเสียคนที่กำลังมอบความจริงใจอย่างที่สุดให้กับคุณ
สูญเสียงาน
การด้อยค่าตัวเองที่จะส่งผลกับงานนั้นก็คือ คุณจะสังเกตได้ว่าคุณจะรู้สึกว่าคุณทำอะไรไม่ได้เลยเพราะคุณไม่มีความสามารถมากพอจนทำให้คุณจะต้องปฏิเสธงานอยู่ทุกครั้ง สิ่งนี้จะส่งผลไปยังทีมของคุณหรือหัวหน้างานของคุณที่พวกเขาจะมองไม่เห็นศักยภาพของคุณเลยแต่พวกเขาจะมองเห็นแต่เพียงคำพูดที่จะปฏิเสธจนทำให้พวกเขารู้สึกเอือมระอาและไม่ต้องการให้คุณร่วมงานกับพวกเขาอีก
การเข้าสู่สภาวะซึมเศร้า
เมื่อไหร่ที่ความรู้สึกด้อยค่าไร้ค่าเป็นการตอกย้ำตัวคุณเองในทุกๆวันและตลอดเวลา สิ่งนี้จะส่งผลให้กับอาการทางด้านจิตใจของคุณมันจะทำให้คุณรู้สึกหวาดกลัวสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องการที่จะอยู่ใกล้ชิดกับใครเลยจนจะทำให้คุณรู้สึกหวาดระแวงและเริ่มมีอาการซึมเศร้าในที่สุด
วิธีรับมือและเปลี่ยนแปลงตัวเอง
หากคุณได้เรียนรู้และศึกษาก่อนหน้านี้ทั้งหมดและคุณรู้สึกว่าคุณกำลังเป็นแบบนั้นอยู่ มันจะไม่สายเกินไปหากคุณได้มีการปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยวิธีเหล่านี้
1. หยุดบังคับตัวเองด้วยความคิดเชิงบวก
หลังจากที่คุณอ่านหัวข้อคุณอาจจะงงเล็กน้อยเพราะความคิดเชิงบวกจะเป็นยารักษาความรู้สึกทุกสิ่ง แต่เรากำลังจะบอกว่าคนที่ลดคุณค่าของตัวเองหรือกำลังรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า และการให้กำลังใจตัวเองอย่างดีที่สุดและการทำให้คุณค่าของพวกคุณกลับมานั่นก็คือการทำในตรงกันข้าม ในความคิดเชิงบวก
รู้ไหมว่าการที่คุณให้กำลังใจผู้อื่นหรือใช้คำพูดกับผู้อื่นในเชิงบวกนั่นเป็นวิธีทางลัดในการเสริมกำลังและเพิ่มพลังงานด้านบวกให้กับตัวคุณเองอย่างที่คุณไม่รู้สึกตัวมาก่อน เพราะเมื่อไหร่ที่คุณต้องการให้คนอื่นมีกำลังใจและเมื่อคุณเห็นความสุขของพวกเขาในจิตใจของคุณจะมีความรู้สึกพองโตและมีความสุขร่วมไปกับพวกเขาด้วยและคำพูดต่าง ๆ เหล่านั้นจะเป็นตัวกำหนดตัวคุณให้คุณเดินต่อไปในความคิดของเชิงบวกอย่างน่าอัศจรรย์
2. การโฟกัสที่อื่นทดแทน
โฟกัสที่อื่นในที่นี้เรากำลังจะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีปกติที่ใช้กันก็คือการบอกตัวเองเสมอว่าคุณจะต้องมีความสุข แต่สำหรับการเปลี่ยนแปลงคนที่มองถึงคุณค่าของตัวเอง หรือการด้อยค่าตัวเอง จึงจำเป็นที่จะต้องมองเห็นความสุขที่เป็นรูปประธรรมมากกว่าเดิม แต่เราจะแนะนำว่าการที่คุณกำลังจะมองหาสิ่งที่จะสร้างความสุขที่เป็นรูปประธรรมก่อนอื่นคุณจะต้องลดความคาดหวังลง
การลดความคาดหวังในที่นี้เรากำลังจะบอกว่า มันเป็นการสร้างความสุขหรือเป็นความสุขที่เกิดจากผลพลอยได้จากเหตุการณ์นั้น ๆ หรือการกระทำนั้นจะดีกว่า เช่น เมื่อคุณคิดว่าความสุขของคุณก็คือการได้อยู่กับคนที่คุณรัก แต่อย่าเหมาว่าการอยู่กับคนที่คุณรักคุณจะต้องอยู่กับเขาตลอดเวลา ให้คุณใช้ช่วงเวลาที่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันแล้วสร้างความสุขให้ได้มากที่สุด มันดีกว่าการที่คุณได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันแต่ความสุขของคุณมันไม่ใช่เรื่องจริงเลย
หรือแม้กระทั่งการที่จะต้องเลือกทำงานหรือการจะต้องทำงานที่คุณรู้สึกอึดอัดใจ ให้คุณเปลี่ยนความอึดอัดใจเป็นการ Enjoy และมองงานทุกอย่างมีคุณค่าและคุณสามารถทำมันได้ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะเล็กน้อยก็ตาม แต่มันจะเป็นการฝึกการยอมรับของคุณได้เป็นอย่างดี หยุดคาดหวังกับคำชื่นชมของผู้อื่น แต่คุณควรจะชื่นชมตัวคุณเองหลังจากที่คุณทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นก็แปลว่าคุณสามารถเอาชนะความกลัวและเอาชนะความคิดที่ว่าคุณไม่มีคุณค่าและคุณทำมันไม่ได้
เราหวังว่าเมื่อคุณได้อ่านและศึกษาสิ่งที่เราได้นำมาแบ่งปันทั้งหมดนี้แล้ว และคุณเริ่มคิดว่าคุณสามารถหยุดการลดค่าตัวเองได้ นั่นก็แปลว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีและคุณได้เปิดใจที่จะยอมรับในการเปลี่ยนแปลง สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้รับอย่างชัดเจนที่สุดนั่นก็คือคุณยังคงมองเห็นคุณค่าในตัวคุณเองเพียงแต่มันยังอยู่ลึกจนทำให้คุณต้องใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยดึงมันออกมา ให้คุณจำเอาไว้ว่าคุณค่าของคนไม่มีเครื่องมือใดๆที่จะสามารถวัดได้นอกจากความรู้สึกของตัวคุณเองเท่านั้น แม้กระทั่งคนรอบข้างก็ไม่สามารถจะตัดสินได้ว่าสิ่งที่คุณมีหรือสิ่งที่คุณเป็นทำให้คุณมีคุณค่าหรือไร้ค่า คุณยังมีบางข้อและข้อดีของคุณบางอย่างที่อยู่เหนือคนบางคนเช่นกัน