หย่าร้างอย่างไรให้ลูกมีชีวิตที่สมบูรณ์

การหย่าร้างมักเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่จะให้เกิดขึ้นกับชีวิตคู่ของใครหลายๆคน แต่ในบางเวลามันก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อคนสองคนไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปได้ แต่ปัญหาการหย่าร้างมักจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนสองคนเพียงเท่านั้น มันมีผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับคนอื่น ซึ่งในที่นี้เราหมายถึงลูกของพวกคุณ 

ปัญหาการหย่าร้างมักจะทำให้เกิดบาดแผลใหญ่ขึ้นกับเด็ก ๆ หรือลูก ๆ ของคุณ เพราะการหย่าร้างอย่างที่บอกมันจะเกิดจากปัญหาเพราะฉะนั้นปัญหาก็จะเป็นอาวุธที่ทำร้ายจิตใจของลูก ๆ ของคุณ เรามีคำแนะนำดีๆสำหรับการใช้ชีวิตหลังการหย่าที่ไม่สร้างบาดแผลให้กับลูกของคุณในภายหลัง และมันจะเป็นวิธีที่จะทำให้ลูกของคุณมีคุณภาพชีวิตที่ดี คุณลองมาทำความเข้าใจและเลือกใช้วิธีเหล่านี้เพื่อให้ชีวิตหลังอย่างของคุณไม่ใช่ขุมนรก 

สิ่งที่ไม่ควรทำในการหย่า เพื่อลดผลกระทบต่อลูก

1. ใช้ลูกเป็นศูนย์กลางการต่อสู้

การหย่าร้างที่จะสร้างผลกระทบต่อลูกที่เห็นเด่นชัดที่สุดนั่นก็คือ การที่พ่อแม่ใช้ลูกเป็นศูนย์กลางและใช้ลูกเป็นเครื่องมือในการต่อรอง การดึงล้างรูปไปทางพ่อทีและทางแม่ทีด้วยการกรอกข้อมูลแย่ๆเพื่อดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม โดยที่จะให้ลูกใช้ความรู้สึกของเขาเป็นผู้ตัดสินความถูกผิดของพ่อและแม่ วิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่สร้างขุมนรกให้กับลูกในชั้นที่ลึกที่สุด

หาการหย่าร้างมันเป็นปัญหาระหว่างของคุณกับสามีหรือภรรยา ให้คุณใช้สติในการไตร่ตรองว่าลูกจะต้องไม่มีส่วนร่วมแม้กระทั่งการตัดสินใจของพวกเขา เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการสร้างความเศร้าโศกภายในใจให้กับพวกเขาและกำลังทำให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขากำลังเสียทั้งพ่อและแม่สำหรับการหย่าร้างนี้ 

ให้การตัดสินใจของคุณทั้งสองเสร็จเด็ดขาด และให้คุณโฟกัสการใช้ชีวิตทั้งหมดไปที่ลูกของคุณสร้างความบาลานซ์และการถนอมจิตใจของลูกให้มากที่สุด ความรุนแรงหรือปัญหาของคุณเป็นสิ่งที่ไม่ควรที่จะฝังเอาไว้ในความคิดของลูก ให้คุณถ่ายทอดบทสรุปอยู่ภายใต้เหตุและผลและทำให้เขารู้สึกว่าเขาจะไม่ถูกพ่อและแม่ทอดทิ้ง และทำให้เขารู้สึกว่าเขาสามารถอยู่กับพ่อหรือแม่ก็ได้ทุกครั้งที่เขาต้องการ 

2. เปิดเผยสาเหตุที่โหดร้ายต่อเด็ก

ขึ้นชื่อว่าการหย่าร้างเท่านี้ก็เป็นเหตุผลที่เป็นการจบชีวิตครอบครัวค่อนข้างรุนแรงที่สุดในชีวิตของเด็กคนหนึ่งอยู่แล้ว ยังมีพ่อแม่อีกหลายคนที่ใช้อารมณ์ในการตัดสินและการดำเนินชีวิต การที่คุณให้ลูกของคุณนั่งอยู่ตรงกลางแล้วฝั่งข้อโต้แย้งของพ่อและแม่ของเขา มันเป็นการทำร้ายจิตใจแบบที่ไร้ซึ่งจริยธรรมในความเป็นพ่อแม่อย่างรุนแรง

ลูกเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดของพ่อและแม่ดังนั้นคุณไม่ควรเอาเหตุผลยอดแย่ของความสัมพันธ์ระหว่างคุณและสามีหรือภรรยาของคุณมาเป็นตัวการทำลายของขวัญที่ดีที่สุดชิ้นนี้ คุณเชื่อไหมว่าการหย่าร้างสามารถทำลายอนาคตของเด็กคนหนึ่งได้โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลยเพียงแค่ใช้กระดาษแผ่นเดียว

หยุดการข่มขู่ทางอ้อมต่อลูกของคุณด้วยการอธิบายเหตุผลยอดแย่สำหรับการหย่าร้าง ให้การหย่าร้างจบลงแบบเงียบ ๆ และคุณและสามีหรือภรรยาของคุณต้องเป็นผู้ถือบทสรุปที่โหดร้ายนั้นไว้เพียงลำพังและไม่นำเอาบทสรุปแบบนั้นไปวางไว้ที่ลูกของคุณ 

3. สร้างบรรยากาศที่ไม่ปลอดภัย

คำว่าบรรยากาศที่ไม่ปลอดภัยสำหรับการหย่าร้างนั่นก็หมายถึง การทำให้ลูกของคุณรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวเคว้งคว้างที่กำลังคืบคลานเข้ามาในชีวิตของเขา เพราะคำว่าหย่าร้างมันสามารถมองได้อีกอย่างหนึ่งก็คือการแยกย้าย ลูกของคุณจะเริ่มความสับสนว่าเขาจะต้องเตรียมพร้อมในการขาดพ่อหรือขาดแม่

และเมื่อไหร่ที่เขาได้รู้ว่าการหย่าร้างกำลังจะเกิดขึ้นเขาจะรู้สึกทันทีเลยว่าบรรยากาศภายในบ้านหรือโต๊ะอาหารของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว คุณอาจจะเป็นคู่หย่าร้างที่มีเหตุผลมากเพียงพอและพยายามทำให้ทุกอย่างจบลงได้ด้วยดี แต่ความรู้สึกของลูกของคุณต่อให้การจบลงดีแค่ไหนก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเขาเพราะพวกเขาไม่ต้องการการจากลา

ความรู้สึกสูญเสียเหล่านี้จะทำให้เด็กรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของเขาในอนาคต คุณควรร่วมกันหาวิธีแก้ไขปัญหาในการสร้างบรรยากาศการอยู่ร่วมกันให้เป็นปกติที่สุด หยุดความขัดแย้ง หยุดการสร้างความกระทบกระทั่ง และที่สำคัญคุณควรจะให้ความสำคัญทุกความรู้สึกของลูกโดยไร้ข้อโต้แย้งใด ๆ เพื่อให้ลูกได้รู้สึกว่าการหย่าร้างในครั้งนี้ชีวิตของเขายังอยู่ในความปลอดภัยและอยู่ในการดูแลของคุณทั้งสองคนเหมือนเดิม 

4. ทำให้ลูกรู้สึกผิด

ดูเหมือนว่าความขัดแย้งบางอย่างที่คุณกำลังสร้างการโต้แย้งโดยที่มีลูกของคุณนั่งอยู่ตรงกลาง มันจะเข้าไปถึงความรู้สึกภายในของลูกของคุณและทำให้ลูกของคุณกำลังรู้สึกว่าเขาเป็นต้นเหตุในการหย่าร้างครั้งนี้ คุณรู้ไหมว่าทำไม? 

นั่นเป็นเพราะว่าคุณไม่สามารถหาบทสรุปของจุดจบของการหย่าร้างได้อย่างลงตัว และในบทสนทนาข้อโต้แย้งยังคงมีลูกของคุณเข้าไปเกี่ยวข้อง มันอาจจะเป็นความไม่ลงตัวของการดูแลและครอบครองลูก แต่ในบทสนทนานั้นมันสามารถพลิกความรู้สึกของลูกให้เขารู้สึกผิดที่เหมือนเขาเป็นตัวต้นเหตุที่ให้เกิดความขัดแย้งนี้

คุณควรจะมีข้อตกลงแบบลับ ๆ ก่อนที่คุณจะอธิบายถึงบทสรุปนี้ต่อลูกของคุณ เพราะคู่ที่กำลังจะหย่าร้างมักจะมีความคิดที่ตรงกันข้ามกันเสมอและไม่สามารถหาความลงลอยได้ ดังนั้นบทสนทนาของความขัดแย้งจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ให้คุณจัดการกับสิ่งนี้หลีกเลี่ยงการสนทนาต่อหน้าลูกของคุณ เหลือเพียงบทสรุปที่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้เขาได้เข้าใจถึงการหย่าร้างครั้งนี้ 

5. การเล่นบทพ่อแม่ที่น่าสงสารเพื่อการเลือกข้าง

ความดราม่าที่พ่อและแม่มักจะเหมือนเขียนบทละครให้กับตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำเพื่อให้ลูกเกิดความสงสารและเลือกข้างที่จะอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง มันเป็นความคิดที่ป่วยมากเพราะมันจะทำให้ลูกรู้สึกผิดหากเขาเลือกพ่อแต่ไม่เลือกแม่หรือเลือกแม่และไม่เลือกพ่อ

อย่าให้เขาจะต้องเป็นผู้เลือกเพราะเขาจะกลายเป็นผู้ผิดทันทีเมื่อเขาบอกว่าเขาจะเลือกใคร แต่ถ้าหากคุณคิดว่าคุณจะทำใจยอมรับได้ว่าลูกจะไม่เลือกคุณและคุณก็สามารถที่จะควบคุมคำพูดของตัวคุณเองได้หลังจากไม่ได้เป็นผู้ถูกเลือก คุณสามารถถามลูกของคุณด้วยคำถามอย่างตรงไปตรงมา คุณควรจะยิ้มรับไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะรอยยิ้มของคุณจะทำให้ลูกของคุณไม่รู้สึกเป็นผู้ผิด 

อย่าใช้วิธีนี้เพื่อเลือกว่าใครเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ มันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ลูกของคุณได้รับการปกป้องและดูแลได้อย่างมีคุณภาพที่สุดเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ไม่ถูกเลือกจะไม่เข้ามาสู่ในชีวิตของลูกอีกต่อไปหลังจากนี้ คุณยังคงต้องมองหาเวลาที่จะสร้างความ Balance ในความเป็นพ่อและแม่ในชีวิตจริงของลูกจนกว่าเขาจะเข้มแข็ง 

6. ใช้ลูกเป็นการแก้แค้นที่แสนหวาน

การแก้แค้นที่แสนหวานในที่นี้นั่นก็หมายถึง การหย่าร้างที่เกิดจากความผิดอันรุนแรงของอีกฝ่ายและคุณเป็นผู้ที่ได้ลูกมาอยู่กับคุณ การตัดสินใจหย่าร้างคนที่ได้รูปมักจะเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบเสมอ แต่หากคุณเป็นพ่อแม่ที่ไร้สติคุณก็จะใช้ลูกเป็นตัวสร้างความรู้สึกอิจฉาให้กับอีกฝ่ายว่าคุณเป็นผู้ได้ครอบครอง แต่บางครั้งคุณลืมนึกไปว่าคุณไม่สามารถเป็นพ่อหรือแม่ได้โดยสมบูรณ์เพียงลำพัง 

อย่าใช้ลูกสำหรับการแก้แค้นด้วยการประชดประชันฝ่ายตรงข้าม ให้พ่อและแม่พยายามมองหาโอกาสที่จะเติมการขาดหายไปของความรู้สึกให้กับลูก ต่อให้คุณเป็นฝ่ายพี่มีลูกอยู่ในมือคุณก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้ความรู้สึกของอีกฝ่ายเพื่อให้ลูกได้รู้สึกว่าเขายังมีคุณแล้วพ่อหรือแม่ของเขาอยู่ในเวลานี้กับเขาด้วย 

เมื่อคุณได้รู้แล้วว่าอย่าร้างอย่างไรให้ชีวิตลูกของคุณสมบูรณ์แบบ ให้คุณยึดปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้ปรับสภาวะอารมณ์ของคุณทั้งสอง และให้ลูกของคุณเป็นศูนย์กลางของความรัก โดยความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ให้คุณสร้างโรคที่แข็งแรงให้กับลูก พยายามเลือกที่จะทดแทนให้กับลูกมากกว่ากดให้เขาลงไปในความรู้สึกขาดจะดีกว่า howto101

บาคาร่าออนไลน์