เคล็ดลับการทำลายกำแพงการผัดวันประกันพรุ่ง

การผัดวันประกันพรุ่งมันเป็นนิสัยที่คนทั่ว ๆไปรวมถึงคุณมีความรู้สึกผิดต่อการกระทำแบบนี้อยู่แล้ว แต่ทำไมมันถึงไม่ยอมหมดไปจากนิสัยของคุณ นี่อาจจะเป็นข้อสงสัยที่เรากำลังจะตามหาคำตอบให้กับคุณ การผัดวันประกันพรุ่งมันแทบจะไม่มีข้อดีในนิสัยส่วนนี้เลยและมันจะยิ่งแย่ไปกว่านั้นหากคุณยังคงเก็บนิสัยนี้เอาไว้ มันจะเป็นการทำลายความหวังในชีวิตของคุณทั้งหมดแบบที่คุณไม่รู้ตัว คุณอาจจะต้องกลายเป็นคนที่ไม่มีศักยภาพในการทำงานอีก และคุณอาจจะกลายเป็นคนที่หมดอาลัยตายอยากในชีวิต

เรามีทางแก้นิสัยการผลัดวันประกันพรุ่งในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงจากแรงบันดาลใจมาให้คุณได้ลองทำตามกันดู และเรามีลักษณะของการผลัดวันประกันพรุ่งที่คุณแทบจะไม่รู้มาก่อนว่านิสัยเหล่านี้มันคือการผัดวันประกันพรุ่ง 

นิสัยเหล่านี้มันอาจจะมองได้หลายแบบซึ่งในบางครั้งมันอาจจะมองดูได้ว่าเป็นความขี้เกียจ แต่เราอยากให้คุณเข้าไปทำความเข้าใจการผัดวันประกันพรุ่งจากประเภทนิสัยเหล่านี้ เพราะถ้าหากคุณไม่ได้สังเกตตัวคุณเองว่าคุณอยู่ในประเภทไหนแล้วคุณจะไม่สามารถมองเห็นวิธีการแก้ไขหรือรับมือกับการทลายกำแพงเหล่านี้ได้เลย มันจะปิดกั้นความก้าวหน้าของคุณในทุกๆเรื่อง เราอยากให้คุณลองศึกษาประเภทของนิสัยการผัดวันประกันพรุ่งเหล่านี้และสังเกตตัวคุณเอง หากคุณมี 1 ใน 5 ประเภทนี้ให้คุณรีบปรับปรุงตัวคุณเองโดยด่วน 

5 ประเภทนิสัยของการผัดวันประกันพรุ่ง วิธีเปลี่ยนแปลง

ประเภทที่ 1: The Perfectionist

เป็นประเภทคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบ คนประเภทนี้จะเป็นคนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบในทุก ๆ เรื่องจนส่งผลให้เกิดการผลัดวันประกันพรุ่งได้ง่ายเพราะคุณจะมองกระบวนการที่มีความสมบูรณ์แบบเท่านั้นที่คุณจะเลือกทำ คุณจะหลีกเลี่ยงกระบวนการที่เล็ก ๆ เหมือนกับคุณจะไม่สนใจมันสักเท่าไหร่ 

คุณอาจจะต้องการความอลังการจากผลสำเร็จหรือความอลังการจากการยอมรับจากคนอื่นๆ แต่คุณรู้ไหมว่าการที่คุณต้องการความสมบูรณ์แบบมันอาจจะไม่มีอยู่จริงหรืออาจจะไม่จำเป็นสำหรับงานบางอย่าง เพราะความสมบูรณ์แบบมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ผลลัพธ์ของคุณดี แต่ความสมบูรณ์แบบในบางครั้งก็อาจจะทำให้คุณเสียเวลาไปกับมันโดยไม่จำเป็น 

ปรับ หยุดให้ความหลงใหลในรายละเอียดของงานทั้งหมด คุณต้องทำความเข้าใจกับวัตถุประสงค์ในการทำงานนี้ว่าคุณต้องการทำงานนี้และผลของงานนี้เพื่ออะไร เช่น หากในเวลานี้คุณจะต้องเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับผลการประเมินการทำงานที่ผ่านมาในระยะเวลา 3 เดือน คุณอาจจะเป็นการเขียนแบบการเล่าเรื่องราวทั่วๆไปเน้นความสำคัญเฉพาะเรื่องที่ต้องมีการแก้ไข คุณไม่จำเป็นต้องประดิษฐ์ประดอยคำพูดที่สละสลวยและดูเป็นทางการมากจนเกินไป ให้ใช้การบอกเล่าที่ง่ายและเน้นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสำคัญ 

ประเภทที่ 2: The Dreamer

นักฝัน หากคุณกำลังอยู่ในกลุ่มคนที่มีนิสัยประเภทนี้บอกได้เลยว่าคุณเป็นนักผลัดวันประกันพรุ่งตัวยง เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า นักฝัน ทุกเรื่องมันคือจินตนาการ แต่เราไม่ได้บอกว่าความฝันมันจะเป็นความจริงไม่ได้ แต่เรากำลังจะบอกว่าความฝันจะยังคงเป็นความฝันต่อไปหากคุณยังคงมีนิสัยผัดวันประกันพรุ่งอยู่แบบนี้ คุณอาจจะเป็นคนที่มีจินตนาการในความฝันสูงและดูสร้างสรรค์ในความฝัน แต่ถ้าหากในชีวิตจริงคุณยังคงยึดติดเอานิสัยผัดวันประกันพรุ่งอยู่บอกเลยว่าจินตนาการของคุณยังไงก็จะไม่เป็นเรื่องจริง

ปรับ เปลี่ยนจากการเป็นนักฝัน ให้กลายเป็นคนที่ตั้งเป้าหมายเก่ง คุณสามารถนำความฝันและจินตนาการเหล่านั้นมาเป็นเป้าหมาย ให้คุณเริ่มสร้างกระบวนการไม่ว่าจะเป็นทางความคิดหรือขั้นตอนการปฏิบัติอย่างจริงจังจากความฝันนั้น อย่างเช่น หากคุณกำลังฝันที่จะมีตำแหน่งงานที่สูงขึ้น คุณจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้การยกระดับการทำงานอย่างไรเพื่อให้คุณได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น คุณจะต้องสร้างกระบวนการอย่างจริงจัง และจะต้องสร้างระเบียบวินัยในการทำตามขั้นตอนนั้น ๆ เพื่อให้เป้าหมายที่มาจากความฝันของคุณเป็นผลสำเร็จ 

ประเภทที่ 3: นักหลีกเลี่ยง

นักหลีกเลี่ยงในที่นี้แทบไม่ต่างกับคนขี้ขลาด หากคุณมีความรู้สึกว่าคุณไม่อยากจะทำงานชิ้นนี้เพราะคุณกลัวที่จะได้รับคำวิจารณ์ และคุณมีความคิด 100% ว่าคุณไม่สามารถทำมันสำเร็จได้ และคุณเลือกที่จะหยุดทำมากกว่าที่จะเดินหน้าทำต่อไปเพราะความกลัวเรานี้ มันคือนิสัยการผัดวันประกันพรุ่งตัวร้ายเลย คุณจะไม่สามารถก้าวหน้าในหน้าที่การงานหรือแม้กระทั่งการสร้างอนาคตที่ดีของตัวคุณเองในอนาคตได้

ปรับ ให้ใช้วิธีการมองหาปัญหาที่หนักที่สุดในเวลานั้นเพื่อเผชิญหน้าและรับมือ เพราะการเริ่มต้นการทำงานในช่วงเช้ามันเป็นเวลาแห่งพลังงานที่ดีที่สุด และการเผชิญปัญหาที่หนักที่สุดในช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่มีความเหมาะสมเพราะคุณจะมีแนวความคิดและมีสมองที่ปราดเปรื่องในการหาทางแก้ปัญหากับปัญหาที่ยากที่สุดและเมื่อไหร่ที่คุณสามารถแก้ปัญหาที่หนักเรานั้นได้ เวลาที่เหลือของคุณทั้งหมดในวันนั้นจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณ และที่สำคัญมันจะทำให้คุณกลายเป็นนักรบที่ชาญฉลาด 

ประเภทที่ 4: ผู้ก่อวิกฤต

ผู้ก่อวิกฤตก็ไม่ต่างอะไรกับผู้สร้างปัญหา ในที่นี้หมายถึงว่าคนที่ชอบทำงานแบบวินาทีสุดท้ายเพราะรู้สึกว่างานของคุณจะสำเร็จได้จากความกระตือรือร้นแบบ Last minute สิ่งนี้มันอาจจะมีข้อดีตรงที่งานสำเร็จแต่ผลลัพธ์ของงานอาจจะไม่ดีอยู่ในระดับที่จัดว่าแย่ และมันจะยิ่งทำให้คุณกลายเป็นคนที่จะรู้สึกกดดันอยู่ตลอดเวลา 

ปรับ ให้คุณจัดการกับกระบวนการทางความคิดของคุณใหม่สำหรับประเภทนี้ ให้คุณเปลี่ยนความคิดว่างานที่คุณทำในเวลาที่เหลือน้อยมันทำให้คุณกระตือรือร้นมากขึ้นจริงอยู่แต่คุณจะไม่มีเวลาเหลือเลยที่จะตรวจสอบประสิทธิภาพงานของคุณได้เลย ให้คุณเริ่มแบ่งสัดส่วนของการทำงานเป็นข้อ ๆ เป็นลำดับขั้น และให้คุณทำตามลำดับตอนเหล่านั้น และให้เน้นถึงการเสร็จทันตามเวลาตามขั้นตอน เพราะแน่นอนว่าแผนที่คุณเขียนไว้หรือลำดับขั้นตอนจะมีช่วงเวลาสำหรับการตรวจทานเสมอ 

ประเภทที่ 5: คนช่างเลือก

คนประเภทนี้จะมีลักษณะช่างวิจารณ์และช่างเลือกเอาสิ่งที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองที่สุด จะออกแนวค่อนข้างเห็นแก่ตัวสักเล็กน้อย ที่สำคัญเป็นนักหลบเลี่ยงตัวยง และมักจะไม่มีความเด็ดขาดในเรื่องของการตัดสินใจและมีความเลื่อนเก่งเลื่อนได้ทุกเรื่อง หากคุณมีลักษณะนิสัยแบบนี้จงพึงระวังไว้เลยว่าคุณจะกลายเป็นที่น่ารังเกียจในองค์กรของคุณ ไม่มีใครอยากที่จะร่วมงานกับคุณมันจะทำให้คุณกลายเป็นคนไม่มีคุณภาพ

ปรับ คุณต้องจัดการกับการปฏิเสธโดยเฉพาะงานที่เป็นความสำคัญหลักต่อให้งานนั้นมันจะทำให้คุณรู้สึกไม่ Enjoy กับมันสักเท่าไหร่ ให้คุณให้ความสำคัญณระหว่างคำว่า “งานที่สำคัญ” กับ “งานเร่งด่วน” เพราะงานเร่งด่วนบางครั้งก็ไม่ใช่งานสำคัญ ให้คุณย้ายความคิดของคุณทั้งหมดไปโฟกัสที่คำว่า “งานสำคัญ” มากกว่า

 “งานเร่งด่วน” เพราะงานสำคัญจะมีผลลัพธ์พี่เห็นผลมากกว่า เพราะงานเร่งด่วนบางครั้งมันเป็นงานประจำที่คุณต้องทำให้เสร็จทันเวลาเท่านั้นเอง 

และทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับการทำลายกำแพงการผัดวันประกันพรุ่งที่สามารถทำให้คุณมองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น คุณอาจจะอ่านไปแล้วในระดับหนึ่งแล้วรู้สึกว่าคุณกำลังเป็นแบบนี้อยู่ มันจะไม่สายเกินไปหากคุณจะหันกลับไปอ่านวิธีการปรับจูนและแก้ไข อย่าให้การผลัดวันประกันพรุ่งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในลักษณะนิสัยของคุณ เพราะอาการแบบนี้จะย่อยคุณค่าในตัวคุณและทำให้คุณจะไม่กลายเป็นที่ยอมรับหรือคนที่มีคุณภาพในสังคมหรือแม้แต่ในครอบครัวคุณได้เลย ให้คุณเปลี่ยนตั้งแต่ตอนนี้มันจะทำให้คุณเห็นอนาคตที่ดีของคุณชัดขึ้น