เมื่อเป็นวิตามินประโยชน์นั้นมีมากมายต่อสุขภาพ แต่การที่คุณจะให้วิตามินเป็น good supplement เพื่อสร้าง affective ต่อร่างกายของคุณไม่ได้หมายความว่าคุณจะกินมันเมื่อว่าง นี่ไม่ใช่การอ่านหนังสือหรืองานอดิเรกที่คุณจะทำเฉพาะเวลาว่าง วิตามินต้องการเวลาที่แน่นอนเพื่อให้เป็นเครื่องมือในการทำงานอย่างรู้หน้าที่และรู้เวลาที่ร่างกายของคุณเริ่มทำงาน
สิ่งแรกที่คุณต้องรู้คือร่างกายของคุณต้องการวิตามินอะไร และวิตามินในแต่ละประเภทก็มีเวลาที่เหมาะสมในการนำพามันเข้าไปทำงานในร่างกาย ความเหมาะสมเช่น วิตามินบางอย่างต้องรับประทานพร้อมอาหารเพื่อการทำงานที่ดี หรือวิตามินบางอย่างต้องการเวลาตื่นนอนในตอนเช้าในขณะที่ท้องยังว่าง มาดูกันว่าเพื่อความแข็งแรงจากวิตามินที่เข้าร่างกายควรเลือกวิตามินแบบไหนและต้องรับประทานมันเวลาใดจึงจะได้ผลดีที่สุด
ประเภทของวิตามินและเวลาที่ควรรับประทาน
วิตามินที่น่าสนใจ
1. วิตามินรวม
2. วิตามินสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
3. วิตามินละลายน้ำ
4. วิตามินที่ละลายน้ำมัน
5. แคลเซี่ยมและไฟเบอร์
วิตามินรวม
ขึ้นชื่อว่าวิตามินรวมแน่นอนว่าต้องมีวิตามินหลายชนิดและแร่ธาตุที่ดีเป็นส่วนผสม เช่น แคลเซี่ยม แม็กเนเซี่ยม วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินดี วิตามินเค แร่ธาตุอย่างโปตัสเซี่ยม ไอโอดีน เซเลเนี่ยม โบเรต ซิงค์ แมงกานิส เบต้า-แคโรทีน โมลิบดีนัม และสุดท้ายคือธาตุเหล็ก
เห็นได้ว่าส่วนประกอบของวิตามินรวมมีมากมายที่คุณอาจจะสร้างความไม่สะดวกหากต้องรับประทานส่วนประกอบเหล่านี้แยกกัน จึงเกิดเป็นวิตามินรวม ควรรับประทานพร้อมกับอาหาร และรับประทานอาหารที่มีไขมันเพิ่มเพื่อเป็นการทำให้ได้รับสารอาหารที่ครบและพอเพียง
วิตามินสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
วิตามินสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องการก่อนคลอดสำคัญที่สุดต้องมีส่วนผสมของแคลเซียมและธาตุเหล็กเป็นตัวสำคัญ และยังต้องมีวิตามินที่สำคัญไม่แพ้กันด้วย นั่นคือ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี โคลีน และกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นวิตามินที่จำเป็นที่สุดที่ขาดไม่ได้เลยแม้แต่ตัวเดียว เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องมีสารอาหารเข้าไปเพิ่มเสริมในปริมาณที่ครบ และเวลาที่เหมาะที่สุดต้องเป็นเวลาท้องว่างในตอนเช้าเท่านั้น เพราะร่างกายจะดูดซึมธาตุเหล็กที่เป็นสารอาหารหลักได้ดีในขณะที่ท้องว่าง
วิตามินละลายน้ำ
ประเภทของวิตามินละลายน้ำ
- ไทอามีน วิตามินบี 1
- ไรโบฟลาวิน วิตามินบี 2
- ไนอาซิน วิตามินบี 3
- กรดแพนโทธีนิก วิตามินบี 5
- ไพริดอกซิน วิตามินบี 6
- ไบโอติน วิตามินบี 7
- โฟเลต วิตามินบี 9
- โคบาลามิน วิตามิบี 12
วิตามินเหล่านี้บอกอยู่แล้วว่าเป็นวิตามินที่ละลายกับน้ำ ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบดังนั้นวิตามินเหล่านี้จะรับประทานเวลาใดก็ได้ คุณสามารถรับประทานก่อนหรือหลังหรือพร้อมอาหารได้เช่นกัน แต่หากทานมากเกินไปจะส่งผลต่อกระเพาะปัสสวะจะทำงานหนักเกินไป หรืออาจจะต้องปัสสาวะบ่อยเพราะหน้าที่ของวิตามินเหล่านี้จะกักเก็บสิ่งที่จำเป็นและสิ่งที่ไม่จำเป็นหรือส่วนเกินจะถูกขับออกมาเป็นปัสสาวะ
วิตามินละลายไขมัน
ให้ความหมายและเข้าใจง่ายคือ วิตามินเหล่านี้จะถูกดูดซึมได้ดีในไขมันมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ประเภทของวิตามินที่ละลายในไขมัน
1. วิตามินเอ
หน้าที่ของวิตามินเอจะช่วยดูแลเรื่องโครงสร้างกระดูกและระบบการสืบพันธ์ มีองค์ประกอบหลักคือ คอร์เนีย และพบวิตามินเอได้เกือบทุกที่เพราะมีอยู่ในเนื้อสัตว์ อย่างน้ำมันตับปลา และในผักสี เช่น แครอท และผักโขมเป็นต้น เวลาที่เหมาะสมในการรับประทานคือพร้อมอาหารโดยเฉพาะอาหารที่เป็นไขมันจะส่งผลได้ดี
2. วิตามินดี
วิตามินดีส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของอาหารเสริม เพราะการรับวิตามินดีจะได้รับโดยตรงจากแสงแดดแต่ในปัจจุบันแสงแดดที่ร้อนมากขึ้นทำให้หลาย ๆ คนไม่นิยมตากแดดบ้างเพื่อรับวิตามินดีได้อย่างครบถ้วน ประโยชน์ของวิตามินดีจะช่วยในเรื่องเสริมสร้างกระดูกและสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถรับประทานพร้อมอาหารและจะยิ่งเพิ่มการทำงานที่ดีขึ้นเมื่อรับประทานอาหารประเภทไขมันเพิ่มด้วย
3. วิตามินอี
วิตามินอีแพทย์จะสั่งให้สำหรับผู้ป่วยบางอาการ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีสภาวะขาดอาหารสารอาหารไม่เพียงพอในการซ่อมแซมร่างกาย อย่างผู้ป่วยที่เป็นโรคจากอาการลำไส้สั้น และโรคที่มีอาหารอักเสบในลำไส้และทางเดินอาหารที่เรียกว่า Crohn’s Disease ต้องรับประทานพร้อมอาหารจึงจะเห็นผลได้ดี
4. วิตามินเค
แน่นอนว่าวิตามินเคมีประโยชน์ในการช่วยให้การแข็งตัวของเลือดเป็นไปอย่างดี มีความจำเป็นอย่างมากต่อการสร้างเนื้อเยื่อกระดูก แบ่งเป็น K1 K2 และ K3 ในวิตามิน K1 พบได้ในอาหารเช่น ผัก K2 พบได้ในแบคทีเรียชั้นดีในลำไส้ ต้องรับประทานพร้อมอาหาร และควรต้องรับประทานไขมันเพิ่มเพื่อช่วยเสริมร่างกายให้แข็งแรง
5. แคลเซียมและไฟเบอร์
เป็นที่รู้กันขั้นพื้นฐานแล้วว่าแคลเซียมและไฟเบอร์มักมีอยู่ในอาหารอย่าง นม แต่ในบางคนที่ไม่ชอบดื่มนมก็สามารถรับแคลเซียมได้จากอาหารอย่างอื่น และต้องควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องของในร่างกาย เมื่อไหร่ที่ต้องรับประทานอาหารเสริมอย่างแคลเซียมให้คุณระวังในการรับประทานที่ไม่ควรรับประทานพร้อมกับธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และสังกะสี เพราะแคลเซียมจะไปรบกวนการทำงานของแร่ธาตุต่าง ๆ เหล่านี้ได้ ไม่ควรรับประทานพร้อมกัน คุณอาจเลือกรับประทานหลังอาหารดีที่สุด
สำหรับไฟเบอร์ เป็นสิ่งที่หาได้ในอาหารประเภทผักและผลไม้ และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานไฟเบอร์ในรูปของอาหารเสริมพร้อมกัน ให้เลี่ยงรับประทานไฟเบอร์ก่อนนอนเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด
ดังนั้น การรับประทานวิตามินของคุณให้คำนึงถึงอาหารที่คุณกำลังรับประทานในขณะนั้น สิ่งที่ต้องสังเกตให้มากที่สุดโดยเฉพาะวิตามินที่ละลายในไขมันเพราะจะส่งผลรบกวนวิตามินชนิดอื่นได้ หรืออาจะถูกวิตามินชนิดอื่นรบกวนจนทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่และเห็นผลไม่ชัดเจน howto101