เลือก Bralette อย่างไรให้ใส่สบายลุคโมเดิร์น

วิธีการ How to

บราเลตต์ (Bralette) เป็นบราที่ถูกดีไซน์มาให้ใช้งานแทนเสื้อได้ พราเลตต์เทียบได้เหมือนกับเสื้อครอปตัวสั้น เปิดให้เห็นความสวยของผิวหน้าท้องหรือกล้ามเนื้อของผู้หญิง บราเลตต์เริ่มเข้ามามีอิทธิพลกับสายสปอร์ทก่อนอันดับแรกและตามมาสร้างเป็นแฟชั่นที่ไม่ใช่เฉพาะการ work out เท่านั้น ทำไมบราเลตต์จึงได้รับความนิยมในบรรดาสาวทันสมัย คุณสมบัติพิเศษของบราดีไซน์นี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่ไม่ต้องการการเน้นหน้าอก ต้องการความสบายและดูดีเมื่อใส่เข้ากับเสื้อผ้าแบบอื่น เรามีไอเดียการเลือกบราเลตต์อย่างไรให้เหมาะกับรูปร่างของคุณเพื่อให้คุณมั่นใจและเลือกมันได้ง่ายขึ้น เราจะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นเสื้อชั้นในไม่ใช่ชุดชั้นในหรือเสื้อใน และเหตุผลของผู้หญิงสมัยนี้ที่ให้ความสนใจกับเสื้อชั้นในมากกว่าดังนี้ ลักษณะของ Bralette ดีไซน์เก๋ 1. Cotton Designs แนวเนื้อผ้าฝ้าย เป็นความนุ่มสบายสไตล์สาวสายชิล เพราะการใช้ผ้าฝ้ายมาเป็นบราเลตต์เป็นการเข้าถึงความต้องการและตอบโจทย์ในเรื่องความบางสบายไม่ระคายเคือง สามารถเลือดีไซน์ที่ใช้ใส่แทนครอปได้สวยไม่แพ้กัน ใส่ได้กับทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นยีนส์ขายาว หรือขาสั้น บางครั้งสามารถใส่แทนเป็นบิกินีเดินชายหาดเล่น ๆ ก็ยังได้  2. Sexy Lace Designs สำหรับ Sexy Lace Bralette เป็นไอเดียที่สร้างความเซ็กซี่มากเป็นอันดับหนึ่งทั้งในดีไซน์ เนื้อผ้า เป็นการออกแบบที่คุ้มค่าการใช้งาน เพราะงานลูกไม้ของบราเลตต์ไม่จำเป็นต้องซ่อนไว้ข้างใน สามารถนำมาใส่กับกางเกง แฟชั่นได้ทุกแบบ เน้นเพียงเสื้อคลุมด้านนอกก็สวยได้และสบายตัวได้ในเวลาเดียวกัน 3. Crochet Bralette Designs เมื่อเสื้อกล้ามธรรมดาของคุณดูไม่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป ให้คุณลองเลือกให้โครเชต์ บราเลตต์ เป็นการสร้างความแฟนซีแทนที่เสื้อกร้ามให้ดูมีเทกเจอร์ และมันง่ายมากกับงานถักเพราะคุณสามารถกำหนดขนาดและความพอดีในการสวมใส่ได้ขนาดของคุณแบบได้รูปร่างที่สวยงาม สามารถใช้เป็นบิกินี […]

ลดความขัดแย้ง หยุดทำร้ายกันในความสัมพันธ์

วิธีการ How to

เมื่อการอยู่ร่วมกันของคนสองคนต้องเกิดสะดุดเพราะความขัดแย้งกันบางอย่าง จนกลายเป็นสาเหตุของการเริ่มต้นทำร้ายทางจิตใจซึ่งกันและกันอย่างเอาเป็นเอาตายจนในที่สุดความสัมพันธ์ก็ต้องจบลง มันไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะปล่อยให้ความรู้สึกขัดแย้งเข้ามาทำร้ายเพียงเพราะรู้สึกว่าคนรักไม่เชื่อฟังคุณอีกต่อไป ลองมาเปลี่ยนความคิดใหม่เพื่อลดความขัดแย้งและหยุดทำร้ายกันไม่ว่าจะวิธีใดก็ตามด้วยวิธีที่จะแนะนำต่อไปนี้ ให้คุณลองหยุดและทำตามวิธีเหล่านี้เพื่อให้ความสัมพันธ์ของคุณกลับมาดีกว่าเดิมหรือจบลงด้วยดี วิธีจัดการกับความไม่ลงลอยในความสัมพันธ์ 1. การสื่อสาร เรื่องของการสื่อสารแน่นอนว่าเมื่อความรู้สึกขัดใจเริ่มเข้ามาก่อกวนความรักของคุณ ก่อตัวระดับความขัดแย้งมากขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะยุติ เริ่มมีปากเสียงใช้ถ้อยคำที่รุนแรง การ Yelling ใส่กันเหมือนแข่งโอลิมปิคชิงถ้วย สุดท้ายต้องมีฝ่ายหนึ่งที่ต้องเงียบแต่กรุ่นในใจ และอีกฝ่ายรู้สึกถึงชัยชนะ  เมื่อไหร่ที่การโต้แย้งเกิดขึ้น ให้คุณควบคุมสติและเลือกใช้คำพูดที่ไม่ใช่การตะโกนใส่กันหรือเชือดเฉือนให้คนฟังเจ็บปวด หาสาเหตุของเรื่องที่เกิด และหาต้นตอนของปัญหานั้นอย่างมีสติ เริ่มหาทางแก้ปัญหาด้วยกันด้วยการพูดคุยด้วยน้ำเสียงที่เป็นปรกติ อย่างน้อยการสื่อสารด้วยสติก็ไม่ทำร้ายหัวใจใครแน่นอน 2. ฝึกการเป็นผู้ฟังที่ดี เมื่อมีสองคนการรับฟังเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก อย่าเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีมากเกินไปเมื่อต้องอยู่กับใครอีกคน บางครั้งการยอมถอยเพื่อเป็นผู้ฟังที่ดีคุณจะได้อะไรมากมาย อย่างเช่น คุณจะได้รู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายว่าเขาต้องการอะไรและรู้สึกอย่างไรในตอนนี้เพื่อคุณจะได้ปรับตัวเองหรืออธิบายอะไรเพื่อสร้างความเข้าใจกันได้มากขึ้น และในขณะที่คุณต้องพูดคุยกัน อุปกรณ์การสื่อสารทั้งหมดควรวางไว้ให้ไกลตัวพวกคุณที่สุด อย่าให้สิ่งเหล่านี้เข้ามาทำลายสมาธิความตั้งใจแก้ปัญหาของพวกคุณในขณะที่มีการพูดและฟังเพื่อประมวลผล 3. เลือกเวลาพูดคุยที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสมหมายถึง การเลือกดูอารมณ์ของคู่สนทนาว่าตอนนี้อารมณ์ของเขาเป็นอย่างไร อยู่ในโหมดไหนและ มีความพร้อมที่จะฟังและฟังแล้วพร้อมที่จะพิจารณาในสิ่งที่คุณพูดมาแค่ไหน สภาวะอารมณ์ในขณะนั้นสำคัญที่สุด เพราะหากคุณเลือกที่จะต้องพูดเรื่องที่เป็นปัญหาในขณะที่อีกฝ่ายยังไม่พร้อม การประทะก็จะเกิดขึ้นทันที และการสนทนาของคุณต้องจบลงแบบไม่เป็นท่า ไม่มีทางออกที่ดีได้เลย โดยเฉพาะเวลาที่คู่รักของคุณกำลังเหนื่อย หิว และง่วงมาก 4. ระดับน้ำเสียง คุณอาจเผลอใช้น้ำเสียงหงุดหงิดแบบไม่รู้ตัว คุณอาจจะไม่ได้ตั้งใจและคิดว่านี่คือน้ำเสียงปรกติ แต่ในขณะที่คุณพูดคุณอยู่ในโหมดของความเหนื่อย แน่นอนว่าน้ำเสียงของคุณมีการยกระดับโทนเสียงที่สูงขึ้นแหละแข็งขึ้น จนทำให้คนฟังรู้สึกได้ว่าคุณกำลังตะโกนใส่พวกหน้าเขาอยู่ […]

ยกระดับชีวิตด้วยการเอาชนะตัวเองแบบวิถีของผู้หญิงแกร่ง

วิธีการ How to

หากคุณไม่อยากให้ใครมองว่าคุณกำลังเข้าสู่ความเป็นผู้หญิงธรรมดา ให้ลองอ่านการสร้างตัวเองจากบทความนี้ดูเพื่อให้คุณได้ใช้เป็นไอเดียยกระดับความธรรมดาของคุณให้กลายเป็นผู้หญิงฉลาดที่ใครก็มาดึงไปจากตัวคุณไม่ได้ การสร้างพลังงานให้กับตัวเอง ไม่ใช่แค่ให้ใครยอมรับ แต่มันจะทำให้คุณกลายเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยความฉลาดและประสบความสำเร็จที่น่าหลงไหล  การเริ่มต้นเข้าสู่การยกระดับตัวเองให้เข้าสู่การเป็นผู้หญิงแกร่ง ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่าโลกใบนี้เหมือนหนังสือเล่มใหญ่แบบเวรี่บิ๊ก มันมีเรื่องให้คุณเข้าไปเรียนรู้และศึกษามัน โดยเฉพาะเรื่องของความประสบความสำเร็จในชีวิตแบบผู้หญิงสวย ๆ และการนำไปสู่การสร้างตัวเองให้เป็นคนที่มั่นคงและแน่วแน่ ความเป็นผู้หญิงไม่ใช่อุปสรรคใหญ่แต่คุณต้องมีใจที่มุ่งมั่นและความมีระเบียบวินัยที่เคร่งครัด นี่คือสิ่งที่เราจะพูดถึงสำหรับการยกระดับตัวเองด้วยการสร้างวินัยในความเป็นผู้หญิง มาดูกันว่าคุณต้องทำอะไรบ้าง 1. ความเต็มใจจากจิตวิญญาณ เราจะเรียกมันว่า Spirit of Willingness มันเป็นเบสิคแห่งการเริ่มต้นโดยเฉพาะ willingness ที่มันมีความหมายว่าความเต็มใจ เพราะการเริ่มต้นที่คุณจะทำอะไรเพื่อไปสู่เป้าหมายหรือ Goal ของคุณได้ คุณต้องลงมือทำมันด้วยความเต็มใจและตั้งใจที่จะทำอย่างจริงจัง ต่อให้คุณต้องเสียสละสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพื่อทำให้คุณได้บรรลุเป้าหมายที่คุณตั้งใจให้สำเร็จคุณก็ต้องสละมัน เช่น คุณต้องสละเวลาในการเล่นมือถือไป 1 ชั่วโมงเพื่อใช้เวลาในการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมต่อสู้ หรือแม้กระทั่งการเสียสละการนอนตื่นสายเพื่อให้คุณตื่นเช้าขึ้นเพื่อมีเวลาในการเตรียมพร้อมตัวเองมากขึ้น  2. ออกจากสิ่งล่อใจ การต่อสู้กับการยกระดับตัวเองด้วยการสร้างนิสัยความมีนินัย เคารพตัวเอง คุณต้องออกมาจากสิ่งที่กำลังทำให้คุณไขว้เขวหรือเกิดการต่อรอง สิ่งที่เรากำลังพูดถึงเราหมายถึงสิ่งที่อยู่แวดล้อมตัวคุณรวมไปถึงเพื่อนของคุณด้วย คุณต้องเคยได้ยินตำพูดแต่โบราณเกี่ยวกับการเลือกเพื่อนที่ต้องมีความนึกคิดที่ดี และสนับสนุนคุณในทางที่ดี ดังนั้นหากเพื่อนของคุณเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังตั้งใจสร้างชีวิตที่ดีขึ้นพวกเขาต้องสนับสนุนคุณทุกช่องทาง แต่หากพวกเขาพยายามที่จะดึงคุณให้ออกจากการโฟกัสในสิ่งที่คุณกำลังจะทำ ให้คุณเดินออกมาจากเพื่อนเหล่านั้นเสีย เพราะพวกเขามีจิตใจที่ไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับตัวเขาเองรวมถึงเขาไม่ต้องการให้คุณเติบโตอีกด้วย 3. มีการกำหนดเวลาให้กับเป้าหมาย การเดินทางไปสู่เป้าหมาย คุณสามารถหยุดแวะพักได้ตลอดเวลาเพราะมันเป็นการทำงานของระบบในตัวของคุณเอง แต่เมื่อไหร่ที่การไปถึงเป้าหมายของคุณไร้ซึ่งการกำหนดเวลาแล้วหล่ะก็ คุณไม่มีทางที่จะสำเร็จเพราะคุณไม่มีวินัยในการทำแต่ละขั้นตอนเลย ให้คุณกำหนดความสำเร็จในเป้าหมายของคุณก่อน เช่น คุณต้องการให้การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักของคุณให้ได้ 5 […]

โฟกัสที่ความชอบมากกว่าเม็ดเงินอย่างไหร่ให้มีชีวิตดีสำหรับหนุ่มสาวรุ่นใหม่

วิธีการ How to

การวางอนาคตและการสร้างอนาคต แน่นอนว่าทุกคนต้องมองไปถึงหน้าที่การงานที่ดีที่สุดและสามารถสร้างรายได้มากจนเป็นที่พอใจ แต่การที่คุณหลงอยู่กับเงินจำนวนมากมายแต่กลับไม่มีความสุขในงานเลยไม่แต่น้อย นั่นเป็นเพราะอะไร นั่นเป็นเพราะว่าคุณโฟกัสเรื่องของรายได้มากกว่า Passion  เงินซื้อทุกอย่างได้จริงหรือ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เงินซื้อไม่ได้นั่นคือเวลา สำคัญที่จะพาทุกอย่างให้ผ่านไปได้ แต่ Passion ก็จะเป็นสิ่งที่นำพาไปสู่ความสำเร็จและเงินที่มหาศาลพร้อมกับความสุขได้ เวลาที่คุณมีอยู่เป็นสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงินดังนั้นการที่คุณอยากใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดนั่นก็คือการที่คุณสร้างชีวิตให้มีคุณภาพและประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณรักและอยากเป็นอยากทำ ให้ Passion นำพาคุณไปสู่ความสำเร็จ มาดูกันว่าเหตุผลของการดึง Passion มาสร้างความสุขมีอะไรบ้าง 1. ความรู้สึกดีขึ้นกับงานที่รัก มันไม่มีอะไรโหดร้ายไปกว่าการต้องอดทนตื่นนอนในตอนเช้าไปทำงานที่คุณไม่เคยรู้สึกชอบมันเลยแต่ต้องทำเพราะคุณให้เงินมาก่อนความชอบ ลองให้คุณเลือกที่จะลองทำสิ่งที่คุณคิดที่อยากทำและอยากเป็น เดินตรงเข้าไปสู่หนทางที่จะทำให้คุณจะไปถึงงานในความชอบของคุณ เมื่อคุณค้นพบมัน ความรู้สึกโลกเปลี่ยนจะเข้ามาอยู่ในตัวคุณทันที ความสุขที่สุดในโลกอยู่แต่ตรงหน้าคุณ 2. ได้รับการกระตุ้นต่อมความคิดสร้างสรรค์ เมื่อคุณรู้ว่างานตรงหน้าคือ Passion ร่างกายของคุณจะถูกกระตุ้นด้วยความรู้สึกว่าคุณต้องไปต่อให้ได้ และคุณจะเริ่มที่จะออกแบบความคิด วางแผน ครีเอท ความสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นแบบง่าย ๆ ไม่ต้องซับซ้อนเพราะมันเป็นสิ่งที่คุณชอบและถนัด ความสร้างสรรค์จะออกมาเป็นกระบวนการมีการทำงานแบบเป็นระบบ คุณจะกลายเป็นครีเอทเตอร์ชีวิตที่เพอร์เฟคแบบหาตัวจับยาก 3. จะหลุดจากความรู้สึกถูกบังคับ ความรู้สึกว่าปลดปล่อย มีแต่ความสุขความชอบจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อคุณเลือกที่จะเดินตาม Passion ชีวิตที่ต้องเหนื่อยกับการผจญภัยในทุกวันกับงานที่เครียดที่สุด คุณเคยเกลียดงานของคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ และในขณะเดียวกันคุณรู้สึกว่าต้องทำงานหนักเพื่อมีเงินตอนเกษียณอายุ แต่อะไรคือจุดที่จะมีความสุขกับตัวเองในปีต่อ ๆ หลังจากนั้น ให้ทำตามความชอบของคุณและพิสูจน์ดูได้เลยว่างานจะสำเร็จได้อย่างมหาศาล และไม่ต้องบังคับสิ่งต่าง ๆ […]

ฝึกตัวเองกับอาการโกรธง่ายให้หายเร็ว

วิธีการ How to

อาการโกรธง่ายเป็นความรู้สึกเมื่อมีสิ่งที่เราไม่ถูกใจหรือไม่เข้าใจเข้ามากระทบใจเรา ถ้าเรารู้สึกโกรธได้ง่ายในทันทีนั่นแสดงว่าเราเป็นคนอ่อนไหวง่าย และมักจะให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล คำถามตลอดเวลาว่าทำไมทุกคนต้องต่อต้านความคิดคุณ หรือทำร้ายจิตใจคุณแบบไม่สนใจ เมื่อไหร่ที่คุณให้ความโกรธมาเป็นตัวนำในการดำเนินชีวิตบอกได้เลยว่าความสัมพันธ์ทุกอย่างของคุณจะพังพินาศได้ง่าย ๆ  เรามีวิธีรับมือและการปรับอารมณ์หากคุณเป็นคนโกรธง่ายให้คุณหายโกรธได้เร็วขึ้นเพื่อทำให้ชีวิตของคุณได้เดินต่อไปอย่างง่าย ๆ และสามารถรักษาความสัมพันธ์ได้ยังยืน 1. ให้เหตุผลเชิงบวกกับพฤติกรรมของคนรอบข้าง ในบางวันคุณอาจจะคิดไปเองได้ว่าทำไมวันนี้เพื่อนร่วมงานของคุณตอบคุณเพียงสั้น ๆ คุณทำอะไรผิด เก็บความกังวลไว้กับตัวเองทั้งวัน อย่าเก็บเอาการกระทำของคนอื่นหรือทัศนคติบางอย่างที่มันไม่เกี่ยวกับตัวคุณเข้ามาใส่ในความรู้สึกของคุณ เพราะจริง ๆ แล้วพวกเขาไม่ได้ทำอะไรและไม่ได้คิดแบบที่คุณคิด พวกเขาอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากอยู่ในขณะนั้น  2. อย่าเอาอารมณ์โกรธของคุณไปใส่คนอื่น อย่าแบกเอาความโกรธหรือความเครียดของคุณไปใส่กับคนอื่น ด้วยเหตุผลว่าคุณเพิ่งผ่านวันที่แย่หรือผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่าใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้างที่จะปฏิบัติต่อผู้อื่นไม่ดี เพราะมันเป็นไปได้ว่าพวกเขาก็อาจจะอยู่ในสถานการณ์นี้เหมือนกัน ในสถานการณ์ที่ลำบากของคุณไม่ใช่เลือกระบายกับคนอื่น ทำให้คนอื่นต้องเสียใจหรือเจ็บปวดจากคำพูดของคุณ วให้คุณจำไว้ว่าแม้ว่าต่อให้คุณจะพยายามอธิบายถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดที่คุณกำลังเจอ ก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวในการระบายอารมณ์นั้นกับผู้อื่น  3. หยุดใช้นิสัยส่วนตัว จริงอยู่คุณอาจจะมีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ได้น้อยจนถึงต่ำมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะพูดทุกอย่างในสิ่งที่คุณไม่ชอบเพียงเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าคุณต้องการเป็นตัวของตัวเอง เพราะการเป็นตัวเองด้วยการพูดออกไปแบบไม่กลั่นกรองต่อคนอื่นมันอาจจะเป็นการเสียมารยาทโดยไม่รู้ตัว  เมื่อไหร่ที่คุณยังต้องอยู่ในสังคมที่โหดร้าย และสังคมศิวิไลในเวลาเดียวกันสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงเส้นบาง ๆ ระหว่างการเป็นตัวเองกับการไม่มีมารยาทมันแทบแยกไม่ออก ดังนั้นคุณควรรู้จักสังเกตก่อนที่คุณจะตัดสินหรือพูดอะไรออกไปด้วยอารมณ์ส่วนตัว เพื่อให้บริบทของความให้เกียรติผู้อื่นยังคงอยู่ในตัวคุณ 4. ควบคุมอารมณ์ เมื่อคุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องรับมือกับคนที่ไร้เหตุผล อันธพาล ในเหตุการณ์ที่คุณไม่คาดคิด คนเหล่านี้มักมีจุดประสงค์ให้คุณแสดงออกเพื่ออยู่ข้างเดียวกับพวกเขาหรือสร้างอารมณ์โกรธไปด้วยกัน ให้คุณเปลี่ยนความคิดที่จะระเบิดอารมณ์โกรธเพื่อให้ไปในทางเดียวกับคนพาลเหล่านั้น เป็นการนิ่งและมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต้องใช้ความเห็นอกเห็นใจมากกว่าการเอาแต่ใจ ไม่มีใครผิดและไม่มีใครถูกในสถานการณ์บางอย่างก็เป็นได้ 5. ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร แน่นอนว่าการมีการสื่อสารกับคนรอบข้าง หากคุณเปิดการสนทนาด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวหรือแสดงความคิดเห็นที่คนฟังรู้สึกว่าตัวคุณเป็นศูนย์กลางจักรวาล […]

เทคนิคการเอาชนะความขี้เกียจเพื่อบรรลุเป้าหมายชีวิต

วิธีการ How to

ความรู้สึกไม่อยากทำอะไรมักเกิดขึ้นได้กับทุกคน ในจังหวะชีวิตที่รู้สึกเหนื่อยมาก ๆ กับความรู้สึกไม่ชอบในสิ่งที่ต้องทำไม่มีแรงจูงใจให้ทำ มันจะดีมากหากคุณสามารถหยุดทำมันได้แต่มันไม่ใช่ คุณไม่สามารถหยุดมันได้ และมันจะมีวิธีไหนได้บ้างที่จะเอาชนะความขี้เกียจเหล่านี้  1. หาสาเหตุของความขี้เกียจ คุณไม่ได้ขี้เกียจมาแต่กำเนิดหรอก เพียงแต่มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้คุณรู้สึกว่าไม่อยากทำมัน หรือเหนื่อยที่จะทำมัน มาดูดันถึงสาเหตุต่อไปนี้ งานที่ล้นมือ ที่เขาเรียกกันว่า over load ในขณะเดียวกันคุณก็ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มอะไรจากตรงไหน จนเกิดเป็นความเหนื่อยล้าและความเครียดจะตามมาในที่สุด คุณต้องวางแผนเลือกในงานที่สำคัญที่สุดก่อน คุณสามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานหรือคนรอบข้างได้แบบไม่ต้องอาย เพราะงานที่ล้นมือบางครั้งคุณก็ไม่สามารถทำมันได้เพียงคนเดียว ความเหนื่อย เวลาของคนเรามี 24 ชม.ต่อวัน แต่เราต้องแบ่งเวลาสำหรับการพักผ่อนแบบ 16/8 กิจกรรม 16 นอนหลับ 8 เป็นความพอดี แต่ทุกวันนี้คุณอาจจะใช้ไปแล้วกับงานและกิจกรรม 20 เหลือการนอนแค่ 4 ความเหนื่อยจะไปไหนเสีย ให้คุณปรับเวลาการนอนให้เพียงพอ และเวลาการทำงานที่เพียงพอ และเวลาสำหรับกิจกรรมการดูแลตัวเองเพื่อให้ร่างกายไปโหมกำลังจนเกินไปจนเป็นความเหนื่อยล้า ความเศร้า ความหดหู่ใจในสถานการณ์ การคิดทุกอย่างไปในเชิงลบ ความวิตกกังวลในความเศร้า ภาพหลอนความเจ็บปวดในอดีตที่ยังคงอยู่ สิ่งเหล่านี้ล้วนบั่นทอนพลังงานในตัวคุณลงไปเรื่อย ๆ ความรู้สึกที่เปราะบางมากจะทำให้โรคซึมเศร้าจะถามหาคุณ ให้คุณสะบัดความรู้สึกเหล่านี้ทิ้งออกไปให้หมดด้วยการคิดเชิงบวก รู้จักมีความรักและการให้อภัย จะช่วยคลายความเศร้าได้ งานที่ไม่เคยชอบ การบังคับตัวเองให้ทำงานที่ตัวเองไม่ชอบเพียงเพราะเงิน มันทำให้สภาพจิตใจของคุณรู้สึกไม่พร้อมในทุก […]

เทคนิคการอาบน้ำเย็นให้มีสุขภาพดี

วิธีการ How to

ตั้งแต่เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวัน ความสะดวกสบายเริ่มมีมากขึ้นสำหรับผู้คนโดยเฉพาะเรื่องการอาบน้ำ น้ำที่ใช้อาบในสมัยก่อนเป็นน้ำในอุณหภูมิปรกติและใช้น้ำต้มให้ร้อนเพื่อผสมให้อุ่นอาบกันในฤดูหนาว หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาเครื่องทำน้ำอุ่นขึ้นมาเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายที่มากขึ้น ซึ่งหลาย ๆ คนก็ติดการอาบน้ำอุ่นไปแล้ว น้ำอุ่นมีข้อดีในการผ่อนคลาย แต่หากพูดถึงเรื่องสุขภาพน้ำเย็นอุณหภูมิปรกติหรือน้ำเย็นจัดมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่มากกว่า มาดูกันว่าประโยชน์ที่จะได้รับจากการอาบน้ำเย็นมีอะไรบ้าง และเทคนิคการอาบน้ำเย็นให้สุขภาพดีทำกันอย่างไร ข้อดีของการอาบน้ำเย็น 1. ร่างกายที่แข็งแรงขึ้น คุณจะสังเกตได้ว่า น้ำเย็นเมื่อสัมผัสตัวคุณจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายอุ่นขึ้นนั่นแปลว่าร่างการได้รับการกระตุ้นโดยตรงจากความเย็นของน้ำ ทำให้เลือดในร่างกายสูบฉีดและไหลเวียนได้ทั่ว ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น ความเจ็บป่วยสำหรับอาการภูมิแพ้ต่าง ๆ จะไม่ถามหาคุณอีก ทำให้การลาป่วยของคุณลดน้อยลง 2. บำรุงผิวและเส้นผม จริงอยู่ว่าน้ำเย็นจะทำให้ผิวแห้ง มันจะเกิดขึ้นในฤดูหนาวเพราะความเย็นจากอากาศก็เป็นตัวแปรที่ทำให้ผิวแห้ง แต่สำหรับน้ำเย็นเมื่อกระทบกับผิว รูขุมขนจะเปิดออกทำให้คุณได้ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ของคุณผลัดเข้าไปในผิวได้อย่างเต็มที่ และยังคงความชุ่มชื้นไว้ได้ดี และเส้นผมเมื่อสัมผัสกับน้ำเย็นจะทำให้เกิดประจุไฟฟ้าที่จะกระตุ้นรากผมให้ทำงานได้ดีขึ้น  3. ปรับสมดุลความรู้สึกได้ดีขึ้น การอยู่ในน้ำเย็นเป็นระยะเวลาหนึ่งจะช่วยลดความเหนื่อยล้าหลังการแช่น้ำเย็นได้ดีกว่าการอาบน้ำอุ่น เพราะอุณหภูมิในน้ำเย็นจะกระตุนให้สมองเกิดการตื่นตัวหลังจากความเหนื่อยล้าด้วยการใช้ความคิดมาทั้งวัน และความอบอุ่นหลังการอาบน้ำจะเป็นการจบขั้นตอนการผ่อนคลายของวันได้ดีมาก เทคนิคการอาบน้ำเย็นให้ได้ผลสุขภาพดี วัฒนธรรมการอาบน้ำเย็นมีมานานโขแล้ว เพราะความเชื่อที่เป็นจริงเกี่ยวกับน้ำเย็นช่วยรักษาอาหารเจ็บป่วยไม่ว่าจะเป็นทางร่างการหรือจิตใจ แต่อย่างไรก็ตามมันอาจจะต้องมีขั้นตอนที่มากกว่าการอาบน้ำธรรมดาเพื่อใช้น้ำเย็นในการรักษาอาการเจ็บป่วย มาดูกันว่าเทคนิคเหล่านี้มีอะไรบ้าง 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการอาบน้ำเย็นเพื่อสุขภาพดี สำหรับขั้นตอนนี้เป็นการฝึกอาบน้ำเย็นเพื่อให้ได้ผลดีต่อสุขภาพ คุณจะห่างหายจากอาการเจ็บป่วย ถึงแม้ว่ายังไม่มีการวิจัยที่ชัดเจน แต่เป็นการรวบรวมผลจากการทดลองของหลาย ๆ คนที่บอกเล่าเทคนี้ต่อ ๆ กันมาและพวกเขาเองก็ประสบความสำเร็จในการทำเช่นนี้เหมือนกัน

แก้ความกังวลด้วยธรรมชาติบำบัด

วิธีการ How to

เมื่อพูดถึงความวิตกกังวลทุกคนจะไม่ค่อยได้พลาดกับความรู้สึกนี้ เพราะมันเป็นความรู้สึกที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ และทุกเวลา สาเหตุของความวิตกกังวลมีหลายสาเหตุด้วยกันเพราะความแตกต่างในสถานการณ์ ระดับความยากง่ายของปัญหา บอกได้ว่าความวิตกกังวลเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติที่แก้ไขมันได้ด้วยการเยียวยาจากวิธีทางธรรมชาติ ซึ่งจะอยู่ในเคล็ดลับที่จะแบ่งปันต่อไปนี้ จะบอกถึงฮาวทูหยุดความรู้สึกวิตกกังวลด้วยธรรมชาติบำบัดแบบง่าย ๆ ที่คุณทำได้ในชีวิตประจำวัน มันอาจจะเป็นอีกทางเลือกอยากให้คุณลองดู 1. ออกไปข้างนอกเพื่อสัมผัสธรรมชาติ การสัมผัสธรรมชาติไม่ได้หมายความว่าแค่คุณออกไปสูดรับอากาศเพียงเท่านั้น การสัมผัสในที่นี้เราจะหมายถึงสัมผัสด้วยความรู้สึก เช่น ภาพ รส กลิ่น เสียง และการสัมผัส  ภาพ  ในที่นี้เราหมายถึง Sight ภาพจริง ไม่ใช่แค่เสมือนจริง การเดินออกไปเจอกับธรรมชาติอย่าง มองต้นไม้ น้ำตก หรือภูเขา แม่น้ำ ทะเล สิ่งเหล่านี้เราเรียกว่าเป็นภาพจริงทางธรรมชาติ ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่คุณมองธรรมชาติเหล่านี้จะทำให้สมองของคุณเริ่มรู้สึกผ่อนคลายอย่างเงียบ ๆ คุณจะสัมผัสได้ว่าคุณรู้สึกถึงความปลอดภัยและการทำให้ภายในร่างกายและจิตใจได้นั่งลงพักผ่อนจริง ๆ   เสียง เสียงในที่นี้เป็นเสียงจากธรรมชาติแท้ ๆ เช่น เสียงน้ำไหลในลำธาร หรือเสียงเงียบ ๆ จากในป่าหรือสวนสาธารณะที่เงียบสงบ เมื่อไหร่ที่คุณสามารถสัมผัสเสียงเหล่านั้นได้ เสียงธรรมชาติจะช่วยลดระดับ Cortisol ที่ร่างกายผลิตออกมาในเวลาที่คุณรู้สึกเครียด เมื่อไหร่ที่คุณได้ยินเสียงจากธรรมชาติเหล่านี้ จะทำให้คุณผ่อนคลาย ความตึงเครียดน้อยลงปริมาณ Cortisol จะลดลง  สำหรับเสียงธรรมชาติคุณสามารถสร้างมันได้เองจากการฟังเสียงจากเสียงตนตรีที่ใช้เสียงธรรมชาติเป็นตัวโน๊ต […]

วิธีจัดการบ้านให้สะอาดจากสัตว์เลี้ยงแสนรัก

วิธีการ How to

เมื่อคุณเป็นคนรักสัตว์และต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่กับพวกมันให้ยาวนานที่สุดแต่ทว่าบ้านก็รัก มันจึงมีทางเดียวคือคุณจะต้องเหนื่อยขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อดูแลทั้งบ้านที่คุณรักให้สะอาดไร้กลิ่น ปลอดเชื้อรา ในขณะที่สัตว์เลี้ยงแสนรักยังต้องอยู่ด้วยกันไปอีก ปัญหาที่พบเด่น ๆ มักจะมีไม่กี่อย่างแต่มันเป็นปัญหาที่ชวนปวดหัวเป็นที่สุด เช่น กลิ่นตัวของสุนัข แมว กลิ่นสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยง ขนที่หลุดร่วงตามฤดูกาล สิ่งเหล่านี้มักจะคอยสร้างปัญหากวนใจคุณอยู่เสมอ ถึงแม้มีวิธีกำจัดด้วยการพ่นสเปรย์ หรือแม้กระทั่งซักอุปกรณ์ กลิ่นและความสกปรกเหล่านี้ก็ไม่หายไป ยังไงเสียก็ยังมีวิธีที่สามารถกำจัดสิ่งกวนใจเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัดลองมาดูกัน ทำอย่างไรกับการดูแลบ้านให้สะอาดเมื่อคุณต้องอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่เป็นสัตว์แสนรัก ถ้าวันนี้คุณมีสุนัข 2 ตัว กับแมวอีก 3 ตัว มันคนสนุกและเหนื่อยมากแน่ ๆ แต่มันมีวิธีแบบ How to ทำอย่างไรให้บ้านสะอาดไร้กลิ่นและคราบฝังอย่างปัง 1. พรมดูดซับน้ำ วิธีนี้ง่ายที่สุด ให้คุณนำพรมแบบซับน้ำมาใช้รองภาชนะน้ำดื่ม หรืออาหารสำหรับสมาชิกตัวป่วนของคุณ โดยก่อนซื้อให้อ่านคุณสมบัติของพรมชนิดนี้ จะมีการผลิตให้มีแผ่นดูดซับแบบพิเศษ และไวต่อการดักจับฝุ่นดักจับเศษขยะเล็กน้อยรอบ ๆ บริเวณโซนอาหารของเจ้าตูบแอนด์เดอะแก๊งค์ 2. น้ำมันหอมละเหย เป็นสิ่งที่ควรมีติดบ้าน เพราะมันสามารถกระจายและทำลายกลิ่นสาปของสุนัข และกลิ่นปฏิกูลของสุนัขและแมวได้โดยให้นำไปวางไว้ตามห้องต่าง ๆ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องนอนของคุณด้วยหากคุณนอนด้วยกัน เปิดให้น้ำมันหอมละเหยกระจายให้ทั่วห้องให้เลือกกลิ่นอ่อน ๆ ไม่แรงมากจนเกินไป และต้องไม่เป็นอันตรายต่อคุณและสัตว์เลี้ยง […]

วิธีทำชาไหมข้าวโพด กับประโยชน์สุดทึ่ง

วิธีการ How to

ข้าวโพดธรรมดาฝักสีเหลืองสวยที่เราเห็นกันอยู่เกือบทุกวัน การปลูกข้าวโพดส่วนใหญ่เพื่อดูแลให้หน้าดินไม่เสีย กินฝักของมัน ส่วนเปลือกและเส้นไหมของมันมักจะถูกเป็นอาหารของสัตว์…. ไหมข้าวโพดคืออะไร? เส้นใยสีทอง ๆ ดูฟู ๆ หน้าที่ของมันมีไว้สำหรับห่อหุ้มฝักข้าวโพดไว้จนแก่ หรือหลาย ๆ คนเรียกมันว่า “ขนข้าวโพด” แต่มันมีลักษณะพิเศษคือส่วนใหญ่จะเป็นสีออกทองคล้ายเส้นไหมจึงนำมาเรียกกันว่า “ไหมข้าวโพด” ฟังดูดีขึ้นและไหมข้าวโพดไม่ได้มีแค่สำหรับเป็นอาหารของสัตว์อย่างเดียว ประโยชน์ของเส้นไหมมีมากกว่าที่คุณคิด ประโยชน์ของไหมข้าวโพด ดีมากที่สุดสำหรับคุณค่าทางอาหารที่มีต่อร่างกายเราคือการนำไหมข้าวโพดมาดัดแปลงทำเป็นชาสำหรับดื่ม คุณสมบัติของไหมข้าวโพดช่วยป้องกันนิ่วในกระเพาะปัสสวะ และภาวะโรคไต ในไหมข้าวโพดมีโพแทสเซียมสูงมาก นอกจากระบบทางเดินปัสวะและโรคไตแล้วยังมีคุณสมบัติในการช่วยกักเก็บน้ำในร่างกาย รักษาระดับน้ำสำหรับข้อกระดูก และโรคความดันโลหิตสูง และประโยชน์ที่เยี่ยมยอดที่สุดคือสามารถทำให้น้ำหนักของคุณลดลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ วิธีทำชาไหมข้าวโพด 1. ปลอกเปลือกด้านนอกออกให้เหลือฝักข้าวโพดและเส้นไหม 2. ลอกไหมข้าวโพดออกอย่างเบามือ พยายามอย่าให้เส้นไหมขาดออกจากกัน ให้ตัดจุกด้านบนและส่วนที่เป็นไหมสีน้ำตาลออก จะสังเกตเห็นได้ว่าจะมีเส้นไหมที่แก่เกินไปอยู่ติดกับจุดเป็นเส้นไหมแห้งสีออกน้ำตาลเข้ม เราจะไม่ใช้ส่วนนี้ 3. เลือกไหมมาประมาณ 1 กำมือกำลังดีไม่มากไม่น้อยจนเกินไป (ไม่คับถ้วยชา) วางลงบนกระดาษทิชชู่ที่สะอาด ผึ่งเอาไว้จนกว่าจะแห้ง 4. หยิบไหมที่แห้งใส่ลงไปในแก้วใบโปรดของคุณ  5. หยดน้ำผึ้งใส่ลงไปใสแก้วเล็กน้อย เริ่มรินน้ำร้อนใส่แก้วช้า ๆ ปริมาณน้ำร้อนให้ได้ครึ่งแก้ว เทใส่ทิ้งไว้สักครู่จนน้ำเริ่มมีสีชาอ่อน ๆ หากคุณไม่ชอบให้มีอะไรเกะกะในขณะที่คุณยกขึ้นดื่ม คุณสามารถตักเส้นไหมออกจากแก้วก็ได้ แต่แนะนำว่าให้เส้นไหมอยู่ในแก้วของคุณค่อย […]